จับกุมหัวหน้าพนักงานคนไทย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังหลบหนีจากพื้นที่ความขัดแย้งไทย–กัมพูชา กลับมาซ่อนตัวในประเทศ

จับกุมหัวหน้าพนักงานคนไทย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังหลบหนีจากพื้นที่ความขัดแย้งไทย–กัมพูชา กลับมาซ่อนตัวในประเทศ

View icon 247
วันที่ 19 ธ.ค. 2568 | 20.09 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (19 ธ.ค. 68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นายพรเทพ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 5043/2567 ลง 17 ต.ค. 2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นหรือประชาชน, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และอั้งยี่” ตามหมายจับศาลอาญา สถานที่จับกุม หอพักครูแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน

พฤติการณ์ เมื่อประมาณปลายปี 66 กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ใช้หมายเลขโทรศัพท์จากต่างประเทศ โทรติดต่อผู้เสียหาย แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ หลอกลวงว่าผู้เสียหายมีบัญชีธนาคารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบ โดยมีการวิดีโอคอลแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจนผู้เสียหายหลงเชื่อ

ผู้เสียหายได้โอนเงินรวม 19 ครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 927,982 บาท ก่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) บช.ก. ซึ่งได้มอบหมายให้ กก.6 บก.ป. เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการสืบสวนสอบสวน

จากการสืบสวนพบว่า คดีดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เข้าข่ายเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ต่อมา บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้อง รวม 14 ราย นำมาสู่ปฏิบัติการ “ทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ รวบพนักงานและบัญชีม้า หยุดวงจรคอลเซ็นเตอร์จึงเป็นที่มาของการเปิดปฏิบัติการ” ในวันที่ 24 ก.ย.2567 เข้าตรวจค้นและจับกุม 9 จุดทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 12 ราย พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและบัญชีธนาคารจำนวนมาก
 
จากปฏิบัติการได้ข้อมูลจากหนึ่งในผู้ต้องหาที่เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ว่า การทำงานเป็นไป โดยสมัครใจ ไม่มีการบังคับขู่เข็ญ โดยทำงานในอาคารหลายชั้นในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ละชั้นแบ่งเป็น หลายห้อง ซึ่งล้วนเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในรูปแบบการหลอกลวงที่แตกต่างกัน มีชายชาวจีนเป็นผู้ควบคุม สั่งการ

โดยสั่งการผ่านหัวหน้าพนักงานคนไทย ซึ่งทำหน้าที่ควบคุม ดูแล มอบหมายงาน และออกแบบ บทสนทนาในการหลอกลวงเหยื่อ โดยยืนยันว่า นายพรเทพฯ เป็นหัวหน้าพนักงานคนไทยของขบวนการดังกล่าว นำไปสู่การออกหมายจับ นายพรเทพฯ ตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น

จากการสืบสวนทราบว่า นายพรเทพ มักใช้ช่องทางธรรมชาติในการข้ามแดนไทย–กัมพูชา ทำให้ยากต่อการติดตามตัวจับกุม กระทั่ง เจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่า นายพรเทพ ได้หลบหนีกลับมายังภูมิลำเนาที่ จ.น่าน เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา จึงได้เข้าตรวจสอบจนสามารถติดตามจับกุมได้ตามหมายจับทั้งหมดข้างต้นส่ง กก.6 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป