ปะทะต่อเนื่อง ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว

View icon 31
วันที่ 22 ธ.ค. 2568 | 07.01 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - ชายแดนด้านจังหวัดสระแก้ว ยังคงปะทะเดือด ฝั่งกัมพูชายังระดมยิงจรวด BM-21 โจมตีพื้นที่พลเรือนเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ทำให้ฝ่ายไทยต้องตอบโต้โจมตีเป้าหมายทางทหารฝั่งกัมพูชาเช่นกัน 

คลิปนี้ ถูกเผยแพร่ในโซเชียลฯ ฝั่งกัมพูชา ซึ่งจากในคลิปจะเห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่ ลอยขึ้นท้องฟ้า โดยระบุว่า กลุ่มควันเกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทย เปิดปฏิบัติการโจมตีทิ้งระเบิดใส่คลังอาวุธของกองทัพกัมพูชาใน 2 จุด คือ พื้นที่อำเภอสวายเช็ก จังหวัดบันเตียเมียนเจย และเมืองปอยเปต ฝั่งกัมพูชา โดยเสียงระเบิดดังมาไกล ถึงพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

สถานการณ์เริ่มตึงเครียด เมื่อกองกำลังบูรพา ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายทางทหารของกัมพูชา พื้นที่ตรงข้ามอำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูง อำเภอคลองหาด และอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยขอความร่วมมือประชาชนใน 4 อำเภอชายแดน อพยพออกจากพื้นที่อันตรายทั้งหมด 

เช่นเดียวกับทางเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ต้องประกาศเสียงตามสาย สั่งอพยพประชาชนเร่งด่วน ขอให้เข้าหลุมหลบภัย แต่ก็มีหลายครอบครัวหวั่นสถานการณ์บานปลาย ตัดสินใจอพยพออกจากบ้านหมู่บ้าน โดยมีรถของเทศบาลเมืองอรัญประเทศ คอยอำนวยความสะดวกพาไปส่งยังศูนย์พักพิงฯ 

ส่วนประชาชนชาวกัมพูชาฝั่งปอยเปต เกิดความวิตกกังวลไม่ต่างจากฝั่งไทย ซึ่งเห็นได้จากคลิปนี้ ทางเพจ Army Military Force นำมาโพสต์ ระบุว่า ชาวกัมพูชาจำนวนมากแตกตื่นเก็บข้าวของอพยพออกจากเมืองปอยเปต หนีเสียงระเบิดกันอย่างอลหม่าน จนทำให้การสัญจรในถนนบางสายติดขัด

สำหรับพื้นที่ตลาดโรงเกลือ ซึ่งอยู่ติดแนวพรมแดนไทย-กัมพูชา ตลอดทั้งวัน มีกำลังทหารพรานที่ 12 เข้าไปคุมเข้มพื้นที่ ห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออก ขณะเดียวกันจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้งดจ่ายกระแสไฟฟ้าพื้นที่ตลาดโรงเกลือ และ ตลาด อบจ.สระแก้วชั่วคราว 

ชายแดนจังหวัดตราด หลังจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เข้าควบคุมพื้นที่ตลอดแนวชายแดนฝั่งจันทบุรี และตราดเบ็ดเสร็จ โดยมีรายงานว่าฝั่งไทยได้เจรจากับภูมิภาคทหารที่ 3 ของกัมพูชา ให้รื้อทำลายเขื่อนดักตะกอนบริเวณบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ ที่ฝ่ายกัมพูชาทำยื่นลงในทะเล ส่งผลให้ฝั่งกัมพูชามีพื้นที่ทั้งทางบกและทางทะเลเพิ่มขึ้น

ทางฝ่ายกัมพูชายอมรับข้อเสนอดังกล่าว ยอมรื้อทำลายเขื่อนดักตะกอนนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 ธันวาคม จนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยมีรายงานว่าหากฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมทำตาม ฝ่ายไทยขู่จะตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุง ที่สะพานเกาะกง

เรื่องนี้ พลเรือตรี กรจักร์ ยศธสาร รองโฆษกกองทัพเรือ เผยว่า การกระทำกัมพูชาไม่ใช่ข้อเสนอของกองทัพเรือ และกองทัพเรือไม่ได้มีการข่มขู่ หรือเจรจาเรื่องนี้แต่อย่างใด โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือ ได้ยืนหนังสือแสดงความกังวลขอให้มีการระงับการดำเนินการ เพราะเกรงมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมทางทะเล

ทั้งนี้ กองทัพเรือยึดมั่นในการใช้กลไกการเจรจาและความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อบริหารจัดการประเด็นชายแดนทางทะเลอย่างรอบคอบ และคำนึงถึงความปลอดภัยของพลเรือนของทั้งสองฝ่ายตามหลักมนุษยธรรม 

ส่วนกรณีของ จ่าเอก เทอดพงษ์ ผมนะรา สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ของกองทัพเรือ ที่เหยียบทุ่นระเบิด แบบ PMN-2 ที่ทหารกัมพูชาลอบวางไว้ จนขาขวาขาด ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณบ้าน 3 หลัง ตำบลชำราก ช่วงเช้าเมื่อวานนี้

เบื้องต้น จ่าเอก เทอดพงษ์ มีกำลังใจที่ดี พร้อมชู 2 นิ้ว เป็นสัญลักษณ์ว่าสู้ พร้อมบอกว่า ถ้าหายดีแล้วจะกลับไปทำหน้าที่ทหารเหมือนเดิม

ต่อมาทาง นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ได้บินด่วนจากจังหวัดสุรินทร์ มาเยี่ยมอาการ จ่าเอก เทอดพงษ์ ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า

โดยนายกได้จับมือ จ่าเอก เทอดพงษ์ พร้อมบอกว่า เป็นคนบุรีรัมย์บ้านเดียวกัน และไม่ต้องเป็นห่วง รัฐบาลกับกองทัพไม่ทอดทิ้งวีรบุรุษผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติ จะดูแลเยียวยาอย่างเต็มที่

กระทรวงการต่างประเทศ ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บเป็นรายที่ 8

ชายแดน ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ หลังจากทหารไทยเข้ายึดพื้นที่เนิน 350 สำเร็จ ปรากฏว่าตั้งแต่ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ เริ่มมีการปะทะกันอย่างหนักหน่วงด้วยอาวุธปืนใหญ่ ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา พื้นที่ใกล้ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก หลังจากฝั่งไทยพบว่าทหารฝั่งกัมพูชา เคลื่อนพลประชิดชายแดนใกล้เขตปราสาทตาเมือนธม กระทั่งเวลา 10.00 น. เสียงปืนตามแนวปะทะเริ่มสงบลง

ด้าน พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุ สถานการณ์ภาพรวมจะควบคุมพื้นที่ไว้ได้แล้ว เช่น ช่องอานม้า ช่องจอม ช่องตาควาย ช่องเปรอ แต่ยังพบการปะทะกันอยู่ที่บริเวณห้วยตามาเลีย เพราะเป็นพื้นที่ราบ การจะรุกคืบเข้าไปต้องใช้ความรอบคอบ เพราะกัมพูชามีอาวุธยิงสนับสนุนและทุ่นระเบิด

บรรยากาศในพื้นที่ตำบลโคกสะอาด อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี เขตรอยต่อกับอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยตลอดคืนที่ผ่านมา ยังคงมีเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง แสงจากกระสุนปืนใหญ่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ทำให้ชาวบ้านต่างผวาเสียงปืน

ชาวบ้าน บอกว่า นอกจากจะผวาเสียงปืนแล้ว ยังผวากลัวเสียงหมาหอนตอนกลางคืนด้วย เพราะเชื่อว่าหมาคงเห็นวิญญาณทหารกัมพูชาหลงทางผ่านมาแถวนี้