พบหลักฐาน กัมพูชาเจตนาใช้ทุ่นระเบิดกับทหารไทย

เช้านี้ที่หมอชิต - กองทัพเรือ ยืนยันจากการเคลียร์พื้นที่บ้านหนองรี และบ้านท่าเส้น พบหลักฐาน ที่ยืนยันว่ากัมพูชามีเจตนาในการใช้ทุ่นระเบิดดัดแปลงกับทหารไทย ส่วนที่มีการเข้าไปรื้อถอนเขื่อนแนวกันคลื่น ไม่ได้เป็นของเสนอของกองทัพเรือแต่เป็นบริษัทเอกชนกัมพูชาเข้าไปรื้อถอนเอง

หลังจากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด หรือ กปช.จต. ได้เข้าควบคุมและตรวจสอบพื้นที่ บ้านหนองรี และ บ้านท่าเส้น ซึ่งยึดคืนจากฝ่ายกัมพูชา ที่เข้ามายึดครองและใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหารก่อนหน้านี้ จากการตรวจสอบพบ แผนผังแสดงตำแหน่งการฝังทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และทุ่นระเบิดดัดแปลง ทั้งจากทุ่นระเบิดรถถัง จากลูกอาร์พีจี และลูกระเบิดที่ยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิด ในพื้นที่บ้านหนองรี สะท้อนถึงการเตรียมการล่วงหน้า ที่ประสงค์ต่อชีวิตทหารไทย และพบคลังอาวุธที่มีทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบดัดแปลงจำนวนมาก ในพื้นที่กาสิโนทมอดา บ้านท่าเส้น ซึ่งยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชาได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่มีพลเรือน 

หลังจากนี้ กองทัพเรือจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้ประกอบการดำเนินการในระดับรัฐต่อไป รวมถึงการแจ้งต่อประชาคมระหว่างประเทศและองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รับทราบถึงการละเมิดอย่างต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชา

ขณะที่เมื่อวาน ภาคเอกชนของกัมพูชาได้มีการนำรถแบ็กโฮ เข้าไปรื้อแนวเขื่อนกั้นคลื่น ในพื้นที่ชายแดนทางทะเลบริเวณหลักเขตที่ 73 จนมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการทำตามข้อเสนอของกองทัพเรือที่ยื่นต่อฝ่ายกัมพูชา

พลเรือตรี กรจักร์ ยศธสาร รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า การกระทำของบริษัทเอกชนกัมพูชาดังกล่าว ไม่ใช่ข้อเสนอของกองทัพเรือ และกองทัพเรือไม่ได้มีการข่มขู่ หรือเจรจาเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือ ได้ยืนหนังสือแสดงความกังวล ขอให้มีการระงับการดำเนินการ เพราะเกรงมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม ทางทะเล การเปลี่ยนแปลงแนวชายฝั่ง ตลอดจนประเด็นด้านความมั่นคงและการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนทางทะเล เพราะกองทัพเรือยึดมั่นในการใช้ กลไกการเจรจาและความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อบริหารจัดการประเด็นชายแดนทางทะเลอย่างรอบคอบ และเคารพซึ่งกันและกัน คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนพลเรือนของทั้งสองฝ่ายตามหลักมนุษยธรรม

ส่วนที่ภาคเอกชนกัมพูชามีการเข้ามารื้อแนวเขื่อนกั้นคลื่น เชื่อว่า น่าจะเกิดจากท่าทีที่แข็งกร้าวของฝ่ายไทยในปัจจุบัน

โดยเมื่อวาน รถแบ็กโฮได้ขุดดินบนเขื่อนจนกระทั้งช่วงสาย รถแบ็กโฮเกิดเสีย ทำให้ต้องหยุดการทำงาน คาดน่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะทำการรื้อถอนได้แล้วเสร็จ

ส่วนบรรยากาศชายแดนบริเวณด่านชายแดนบ้านหาดเล็ก ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เมื่อวานนี้ ประตูด่านยังคงปิดสนิท มีชาวบ้านที่อพยพออกจากพื้นที่ไปก่อนหน้านี้ ได้กลับเข้าบ้านแล้วเป็นบางส่วน แต่บรรยากาศยังคงเงียบเหงา ผู้คนออกมาเดินบางตา และร้านค้ายังไม่มีการเปิดแต่อย่างใด

ส่วนที่ฝั่งตรงข้ามที่เป็นบ่อนกาสิโน ที่ชาวจีนเช่าทำธุรกิจดูเงียบเหงา

ขณะที่โลกโซเชียลตั้งข้อสังเกตว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิดใส่กาสิโนทมอดา เมื่อวันก่อน ทำไมแรงระเบิดและเกิดกลุ่มควันเป็นจำนวนมาก ไปชมภาพที่ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตดังกล่าวกันอีกครั้ง

ทั้งนี้มีการยืนยันแล้วว่า ระเบิดที่ใช้ ยังเป็นแบบ MK 82 หรือมาร์ก 82 ซึ่งมีขนาด 500 ปอนด์ ตามปกติ แต่ที่เกิดการระเบิดรุนแรงมาจาก จุดที่โจมตีเป็นคลังอาวุธ ทำให้วัตถุระเบิดที่ถูกเก็บไว้ในคลังเกิดการระเบิด จนทำให้รแงระเบิด และเกิดกลุ่มควันมากกว่าปกติ

ขณะที่เมื่อวานนี้ เพจของ "เสียงจากทหารเรือ" ได้โพสต์ข้อความมีใจความว่า "ทหารเรือ" เปิดให้กัมพูชารับ "ร่างทหาร" ที่เสียชีวิต จากการปะทะที่บริเวณบ้านหนองรี กลับไปทำพิธีอย่างสมเกียรติ แต่ขณะนี้ยังไร้การตอบกลับจากฝ่ายทหารกัมพูชา แต่อย่างใด