เสนอ “หมอวรงค์” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หนึ่งเดียวพรรคไทยภักดี

เสนอ “หมอวรงค์” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หนึ่งเดียวพรรคไทยภักดี

View icon 34
วันที่ 22 ธ.ค. 2568 | 19.15 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เสนอ “หมอวรงค์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ หนึ่งเดียวพรรคไทยภักดี ชูต้นแบบผู้นำปราบโกง ลั่นนโยบายเรือธงยกเครื่องการปราบทุจริตคอร์รัปชัน การทุจริตเกิน 100 ล้านบาท ประหารชีวิตสถานเดียว

วันนี้ (22 ธ.ค. 68) นายปฏิยุทธ ทองประจง เลขาธิการพรรคไทยภักดี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค มีมติส่ง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ต้นแบบปราบโกงหนึ่งเดียวของพรรคไทยภักดี

ด้าน นพ.วรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ระบบสีเทาครอบงำทุกระบบของประเทศ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในแต่ละปี ไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านบาท ทั้งส่วยสินบน รวมถึงสแกมเมอร์ พรรคการเมืองต่าง ๆ ปนเปื้อนด้วยสีเทา ไทยภักดีมีความชอบธรรมและประสบการณ์จริง ตอนมีตำแหน่งก็สู้จริงจนเอานายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี นายทุนพรรคการเมืองใหญ่ติดคุก และในช่วงเวลาที่ไม่มี สส. ก็ร่วมสู้กับภาคประชาชน จนทำให้แนวคิดที่จะเอาประเทศเป็นศูนย์กลางกาสิโนต้องล้มเลิก นำนักโทษหนีคดีกลับมาติดคุก พรรคจึงเป็นต้นแบบผู้นำปราบโกง แม้หลายพรรคจะออกนโยบายปราบโกง แต่พรรคการเมืองเหล่านั้นมีความชอบธรรมอะไร ในเมื่อขณะที่มีตำแหน่ง มีอำนาจกลับไม่ทำ ต่างจากพรรคไทยภักดีที่มีผลงานยืนยันเป็นต้นแบบผู้นำปราบโกง

“ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อพรรคไทยภักดีในเรื่องนี้ ทำให้เราได้รับการร้องเรียนมาว่า แม้ในสถานการณ์สู้รบ ขณะที่เราไปเยี่ยมพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ ศูนย์อพยพรองรับผู้อพยพหลายแสนชีวิต แต่กลับมีความเลวร้ายด้วยการหักค่าหัวคิวงบจัดหาอาหารดูแลผู้อพยพ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีจัดการตรวจสอบเรื่องนี้ซึ่งเข้าใจว่ามีอยู่ในหลายพื้นที่” นพ.วรงค์ระบุ

นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า นโยบายเรือธงของพรรคคือ ยกเครื่องการปราบทุจริตคอรัปชั่น การทุจริตเกิน 100 ล้านประหารชีวิตสถานเดียว ห้ามขออภัยโทษ เพิ่มอำนาจประชาชนฟ้องนักการเมืองโกงและเมื่อคดีสิ้นสุดจะได้รับส่วนแบ่งเงินรางวัล ขณะที่ปัญหาแสกมเมอร์จะเสนอกฎหมายให้นำเงินที่ยึดมาได้ เฉลี่ยคืนกับผู้เสียหาย การยกเครื่องตำรวจซึ่งปัญหาหลักมาจากการซื้อขายตำแหน่ง โดยใช้เงินจากธุรกิจผิดกฎหมาย และการรังแกประชาชนด้วยการตั้งด่าน พรรคจะนำตำรวจกลับไปเป็นของประชาชน โอนไปสังกัดจังหวัด ยกเลิกด่านเพื่อตัดวงจรส่วย

นพ.วรงค์ กล่าเพิ่มเติมว่า นโยบายยกเครื่องความมั่นคง จะสนับสนุนพัฒนากองทัพให้เข้มแข็ง ยกเลิก MOU 43 -  44 ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาสงครามชายแดน ยกเครื่อง สปสช. ซึ่งโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคตอนนี้ฝีแตก เพราะเอาเงินไปใช้ผิดประเภท จึงต้องปรับโครงสร้างบอร์ด สปสช. โดยให้ตัวแทนผู้รับบริการและผู้ให้บริการเข้าไปบอร์ด

นพ.วรงค์ กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งแต่ละครั้ง พรรคการเมืองพยายามจูงใจประชาชน จึงอยากให้ใช้สติ ขณะนี้อำนาจต่อรองของประชาชนกำลังกลับมา ถ้าเลือกพรรคแบบเดิมก็ต้องมานั่งบ่นอีก 4 ปีเหมือนเดิม ขอยืนยันว่า ถ้าไทยภักดีเป็นรัฐบาลจะทำให้ดูว่าพรรคที่ตั้งใจทำงานให้ประชาชนทำงานอย่างไร แต่ถ้าเป็นฝ่ายค้านก็จะทำให้ดูว่า ตรวจสอบจริงทำอย่างไร  การใช้โจรปราบโจรก็จะได้โจร ใช้สีเทาปราบสีเทาก็จะได้สีเทา ดังนั้นต้องเอาสีขาวมาปราบสีเทา

ทั้งนี้ นพ.วรงค์ ยังได้เปิดตัว อาจารย์กบ นายกฤษณพงศ์ เกียรติศักดิ์ นักกิจกรรมทางการเมือง เป็นหนึ่งในผู้สมัคร สส. ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคอีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง