วิเคราะห์อาเซียนสงบศึก ไทย-กัมพูชา ?

View icon 18
วันที่ 23 ธ.ค. 2568 | 07.02 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - แม้ผลการประชุมที่มาเลเซียจบลงที่การให้ไทยและกัมพูชาไปเจรจากันในการประชุม GBC วันที่ 24 ธันวาคม

แต่ท่าทีของ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" เมื่อวาน ก็มีหลายอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า ยังพยายามปลุกใจคนในชาติให้ลุกขึ้นมาสู้ และพร้อมจะยืดเยื้อเรื่องนี้กับไทย

ภาพการยิงเครื่องยิงจรวด BM-21 ใส่ไทย โดยการใช้บ้านเรือนประชาชนเป็นที่กำบัง เป็นหนึ่งในหลักฐานที่ไทยเก็บไว้ยืนยันกันนานาชาติ ว่าทหารกัมพูชายิงเพื่อหวังให้ไทยยิงปะทะเข้าใส่พื้นที่ที่มีพลเรือนอาศัยอยู่ เพื่อหวังว่าเมื่อไทยเกิดข้อผิดพลาดใด ๆ ขึ้น จะสามารถนำเรื่องนี้ไปบิดเบือน กล่าวโจมตีว่าไทยไม่ได้โจมตีที่เป้าหมายทางการทหาร เหมือนที่เราพยายามพูดเรื่องนี้มาโดยตลอด และสิ่งที่ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" พยายามพูดผ่านสื่อ คือเรื่องจริง

ซึ่งก่อนที่จะมีการเจรจากันที่มาเลยเซีย "สมเด็จฯ ฮุน เซน" แชร์คลิป พร้อมโพสต์ข้อความ ระบุ อ้างถึงความอยุติธรรม 3 อย่างที่กัมพูชาได้รับจากการสู้รบกับไทย เนื้อหาในคลิปที่แชร์ใจความก็เป็นการปลุกใจเหมือนทุกครั้ง พยายามแสดงให้เห็นว่า กัมพูชาอดทนต่อการกระทำของไทยมาโดยตลอด แต่มีจุดหนึ่งของเนื้อหาที่น่าสนใจ ระบุถึงการที่กัมพูชา จะต้องเสริมความเข้มแข็งในทุกมิติ รวมถึงการพัฒนาทางการทหาร ซึ่งก็มีหลายคนเอาไปตีความว่า จะมีการทุ่มงบประมาณให้กับกองทัพ และการวิจัยเพื่อพัฒนาอาวุธมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีโพสต์ของสื่อกัมพูชา ที่จู่ ๆ ก็เขียนข่าวเชิงเชิดชู "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ว่าผ่านมาแล้ว 105 สมรภูมิ บาดเจ็บสาหัส 5 ครั้ง มาตั้งแต่ปี 2520 พยายามสู้รบเพื่อพัฒนาประเทศให้ดีขึ้นมาโดยตลอด แล้วก็มีประโยคหนึ่งที่แปลได้ว่า "ชีวิตของท่าน คือ ชีวิตของชาติกัมพูชา"

ถามความเห็น รองศาสตราจารย์ ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มองว่า นี่เป็นเพียงคำขู่ เพราะหากประเมินความเข้มแข็งของกัมพูชา ก็ต้องพูดตามตรง ว่าลดลงไปมาก ยอมรับว่า กัมพูชา เตรียมการรบมานาน

ดังนั้น การสู้รบที่ยืดเยื้อจึงเป็นไปได้แต่ก็มีเงื่อนไข ว่า "กัมพูชา" ต้องได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติมากกว่านี้

ขณะที่ไทยเอง ก็ต้องไม่ติดกับดัก ต้องปิดล้อม ตัดท่อน้ำเลี้ยง มุ่งเป้าไปยัง "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ที่บัญชาการรบอยู่ทุกวันนี้

นอกจากนี้ ยังได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังจากนี้ เชื่อว่า กัมพูชาคงไม่ยอมรับเงื่อนไขของฝั่งไทยทั้งหมด เพราะ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" ส่งสัญญาณมาแล้วว่า กัมพูชาจะไม่รับเงื่อนไขหลายอย่างของไทย โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องยอมรับความจริงว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นการสู้รบ

แต่ในการประชุมเช่นนี้จะมีการตกลงในหลักการว่าจะต้องลดระดับการเผชิญหน้า เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงอีกครั้งหนึ่ง หมายความว่า อาจมีกลไกเพิ่มเติมหลังจากนี้ในการควบคุมการหยุดยิง และให้คณะผู้สังเกตการณ์มีความเข้มแข็งมากขึ้น มีเครื่องมือและการเฝ้าระวังมากขึ้น

หากการสู้รบยืดเยื้อไปจนถึงปีหน้า ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงประธานอาเซียนคนใหม่ จากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นผู้นำจากฟิลิปปินส์ อาจทำให้ไทยมีความได้เปรียบมากขึ้น เพราะฟิลิปปินส์ไม่ได้เชื่อใจกัมพูชาหลายเรื่อง เป็นพันธมิตรทางการทหารกับไทย

หากไทยให้ข้อมูลต่าง ๆ ก็เชื่อว่าจะดึงเข้ามาอยู่ฝั่งเดียวกับไทยได้ รวมถึงอินโดนีเซียที่เสนอตัวเข้ามา ก็จะทำให้ไทยมีพันธมิตรมากขึ้น สามารถปิดล้อมปราบปรามแก๊งอาชญากรรมต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง