ข่าวภาคค่ำ - สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่นิ่ง ทั้งกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 1 หนักสุดยังพบว่ากระสุนจากกัมพูชาตกใส่พื้นที่และบ้านเรือนประชาชน แม้พรุ่งนี้จะมีการประชุม GBC เพื่อหามาตรการหยุดยิง
ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา สรุปแนวปะทะของกองทัพภาคที่ 1 ที่ยังมีต่อเนื่อง ใน 3 พื้นที่ บ้านคลองแผง บ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว นอกจากเป็นการปะทะระหว่างทหารแล้ว ยังมีการยิงมายังบ้านเรือนเกือบ 200 นัด ใน 51 พื้นที่ ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 14 หลัง พลเรือนบาดเจ็บโดยตรงจากการปะทะ 7 ราย พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 7 พื้นที่ รวมกว่า 5,800 ไร่ รวมถึงสัตว์เลี้ยงและพื้นที่การเกษตร
มีข้อมูลฝ่ายความมั่นคงพบว่า กัมพูชาเตรียมเติมกำลังพลเข้ามาในพื้นที่ จึงมีปฏิบัติการทางทหาร เข้าทำลายสะพาน ซึ่งเป็นเส้นทางส่งกำลังพล และเส้นทางเสบียง ฝั่งปอยเปตได้สำเร็จ
ขณะที่กองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพาเปิดปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายของฐานกัมพูชาฝั่งปอยเปต เป็นตึกสูง 2 แห่ง พบว่าเป็นฐานปฏิบัติการและเก็บอาวุธกระสุน ซึ่งไม่มีพลเรือนพักอาศัยอยู่ในอาคาร
วันนี้ทำให้กองทัพภาคที่ 1 สูญเสียทหารกล้าอีก 1 นาย คือ พลทหาร ธนพัฒน์ นันทะวงศ์ สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ชายแดนที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว กองทัพขอเชิดชูเกียรติในความเสียสละทำหน้าที่ชายชาติทหารปกป้องแผ่นดินไทยด้วยชีวิต ทั้งนี้จะดูแลจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ และดูแลสิทธิต่าง ๆ ให้กับครอบครัวอย่างครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ 8 จนถึงวันนี้กองทัพมีทหารกล้าพลีชีพแล้ว 23 นาย
ในส่วนของพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ภาพรวมพื้นที่ควบคุมได้แล้ว พยายามเร่งรัดสถาปนาความมั่นคงให้มีความแข็งแรง เนื่องจากกัมพูชาพยามที่จะตีโต้ตอบกลับคืนมาในพื้นที่สำคัญและระดมยิงเข้ามาอย่างหนัก คือ ภูมะเขือ ห้วยตามาเรีย และพื้นที่ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือน