เช้านี้ที่หมอชิต - คงต้องมาลุ้นกันต่อกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ว่านอกจากนายอนุทิน หัวหน้าพรรคแล้ว จะมีคนอื่นอีกหรือไม่ หลังนายอนุทินยังไม่เปิดเผยในวันพรุ่งนี้ แต่ที่แน่สุดคือพรรคกล้าธรรมมาแน่ 1 เดียว คือ "ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า" ที่เป็นปาร์ตีลิสต์เบอร์แรกเช่นกัน
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ คนเดียวของพรรค และเป็นเบอร์ 1 สส.ปาร์ตีลิสต์
โดยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่สนใจเป็นเป้าโจมตี เพราะโดนจนชินแล้ว ย้ำมี สส. เกรด A++ อยู่มากพอสมควร ขณะนี้ สส. ที่ย้ายพรรคมาร่วมพรรคประมาณ 60 กว่าคน
แต่ที่ร้อนแรงกว่า คือ เพจเฟซบุ๊ก "พรรคประชาธิปัตย์" โพสต์คลิปการให้สัมภาษณ์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศชัด ๆ ไปเลยว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคกล้าธรรม
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะยังไม่ประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยในวันนี้
แต่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ยืนยันชัดเจนว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์ 1 ของพรรค คือ นายอนุทิน แต่ยืนยันว่าพรรคไม่ส่งแคนดิเดตฯ คนเดียว เพราะอดีตที่ผ่านมาการเสนอคนเดียว เป็นความสุ่มเสี่ยงกับคำว่า "จริยธรรม" แต่พรุ่งนี้เปิดแน่นอนคือ สส.เขต และปาร์ตีลิสต์ 500 คน
ส่วน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พูดสั้น ๆ หลังมีกระแสข่าวว่าได้รับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยว่า "เดี๋ยวก็ได้ยิน เดี๋ยวก็รู้"
เมื่อถูกถามว่าคุยอะไรกับคุณอนุทินเพิ่มหรือไม่ บอกเพียงว่า "คุยกันเสร็จแล้ว"
อีกพรรคยังเงียบ แต่มาแล้วกับพรรคลุงป้อม "พลังประชารัฐ" โดยได้รับการยืนยันจาก นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฯ ว่า "ลุงป้อม" พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ และยังไม่ได้วางมือ ส่วนจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่นั้นขอให้รอดูวันที่ 25 ธันวาคมนี้ที่จะเปิดตัว
ขณะที่เมื่อวาน (23 ธ.ค.) ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการอนุมัติงบประมาณให้ กกต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการเลือกตั้งและการทำประชามติวงเงินประมาณ 8,900 ล้านบาท โดยประมาณ
โดยงบฯ เฉพาะการจัดการเลือกตั้ง 6,750 ล้านบาทถือว่าสูงกว่างบฯ เลือกตั้งทั้้งหมดเมื่อปี 2566 ซึ่งโฆษกรัฐบาล ยอมรับว่าเป็นข้อสังเกต และนายกฯ ได้ให้สำนักงบฯ ไปพูดคุยกับ กตต. เพื่อตรวจสอบการใช้งบฯ ให้ประหยัดที่สุด
งบประมาณจัดการเลือกตั้ง 6,750 ล้านบาท ออกเสียงประชามติ 525 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายสนับสนุนเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง กระทรวงต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กทม. กรมประชาสัมพันธ์ 1,700 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 8,978 ล้านบาท
