วันนี้ (24 ธ.ค.68) กองทัพภาคที่ 2 รายงานพื้นที่ชุมชนที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของฝ่ายทหารกัมพูชาที่ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ใส่เป้าหมายเป็นบ้านเรือนประชาชน โดยมีกระสุน BM-21 ตกใส่พื้นที่ 98 จุด รวม 695 นัด ในจำนวนนี้ ลงที่ อ.พนมดงรัก มากถึง 502 นัด รวม 44 จุด บ้านเรือนเสียหาย 12 หลัง รองลงมาเป็น อ.กันทรลักษ์ 134 นัด รวม 63 จุด บ้านเรือนเสียหาย 17 หลัง
ส่วน อ.กาบเชิง มีกระสุน BM-21 ตกใส่พื้นที่ 13 จุด รวม 31 นัด บ้านเรือนเสียหาย 6 หลัง อ.บ้านกรวด กระสุนตกใส่ 7 จุด รวม 27 นัด และ อ.น้ำยืน กระสุนใส่ 1 จัด รวม 1 นัด
การยิงจรวดหลายลำกล้องของกัมพูชา ใส่พื้นที่ชุมชน ส่งผลให้สิ่งปลูกสร้างเสียหาย 81 หลัง แบ่งเป็น บ้าน 74 หลัง วัด 5 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง

กองทัพภาคที่ 2 ระบุด้วยว่า ภาพความเสียหายจากการถูกยิงด้วยจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) พื้นที่กว้างลงสู่ชุมชน บ้าน วัด และโรงเรียน คือ หลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การทำสงครามโดยไม่แยกแยะเป้าหมายและไม่คุ้มครองพลเรือน คือ การละเมิดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้ง การอ้าง “ สันติภาพ ” เพื่อสร้างความชอบธรรมให้การใช้กำลังที่ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เป็นเพียงวาทกรรมที่บิดเบือนความจริง
สันติภาพไม่ใช่เครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือยุทธศาสตร์ของรัฐใดรัฐหนึ่ง หากแต่ต้องตั้งอยู่บนความรับผิดชอบต่อสังคม การแยกแยะเป้าหมาย ความได้สัดส่วน และความจำเป็นทางทหารอย่างแท้จริง
ดังนั้น เมื่อพลเรือนกลายเป็นผู้รับเคราะห์ในความรุนแรงนี้ สันติภาพที่ถูกกัมพูชากล่าวอ้างย่อมกลายเป็นคำโกหกหลอกลวง สันติภาพเริ่มต้นได้ก็ต่อเมื่อกัมพูชาเลือกที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างจริงใจ ไม่ใช่ใช้คำว่าสันติภาพบังหน้าให้กับความรุนแรงที่ไร้ความรับผิดชอบ