- เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน
- เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน
- เงินทดแทนกรณีว่างงาน สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน
- เงินสงเคราะห์กรณีคลอดบุตร 22,500 บาทต่อครั้ง เพิ่มเป็น 26,250 บาทต่อครั้ง
- เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 90,000 บาท เพิ่มเป็น 105,000 บาท
- เงินบำนาญในกรณีส่งเงินสมทบครบ 15 ปี สูงสุด 3,000 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 3,500 บาทต่อเดือน
- เงินบำนาญในกรณีส่งเงินสมทบครบ 25 ปี สูงสุด 5,250 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 6,125 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ การประกาศใช้สูตรบำนาญใหม่จะมาพร้อมกับการ ทยอยปรับเพิ่มเพดานค่าจ้างที่ใช้ในการคำนวณเงินสมทบ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงในระยะยาวของกองทุนประกันสังคม โดยจะปรับจากปัจจุบันที่ 15,000 บาท เป็น
- 17,500 บาท ในปี 2569
- 20,000 บาท ในปี 2570
- 23,000 บาท ในปี 2571
แม้เพดานค่าจ้างจะปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังคง อัตราเงินสมทบเดิมที่ 5% ทำให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างจะต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้นตามฐานค่าจ้างใหม่ โดยผู้ที่จ่ายเต็มเพดานค่าจ้าง 23,000 บาทต่อเดือนในปี 2571 จะต้องจ่ายสมทบที่ 1,150 บาทต่อเดือนเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 750 บาทต่อเดือน (เพิ่มขึ้น 400 บาท หรือ 53%)
การปรับสูตรใหม่ มุ่งให้ผู้มีรายได้สูงจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้นเพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันผู้มีรายได้น้อยยังได้รับความคุ้มครองในระดับที่เหมาะสมตามกำลังจ่าย
สรุปตัวอย่างเงินบำนาญผู้ส่งครบ 25 ปี
- ก่อนปี 69 (สูตรเดิม): คำนวณจาก 60 เดือนสุดท้าย (ฐาน 15,000 บาท) จะได้ประมาณ 5,400 - 5,900 บาท (ตามข้อมูลคาดการณ์)
- ปี 69 - 71 (เพดาน 17,500): ประมาณ 6,125 บาท/เดือน
- ปี 72 - 74 (เพดาน 20,000): ประมาณ 7,000 บาท/เดือน
- ปี 75 เป็นต้นไป (เพดาน 23,000): ประมาณ 8,050 บาท/เดือน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สูตรใหม่! เริ่มปี 69 ประกันสังคม จ่ายมากได้มาก เช็กส่งกี่บาท

ขอบคุณข้อมูล ประกันสังคม