ทบ.โต้กัมพูชาบิดเบือน ยืนยันกระสุนคลัสเตอร์ใช้เฉพาะเป้าหมายทหาร

ทบ.โต้กัมพูชาบิดเบือน ยืนยันกระสุนคลัสเตอร์ใช้เฉพาะเป้าหมายทหาร

View icon 55
วันที่ 24 ธ.ค. 2568 | 13.32 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เขมรโกหกหลายคำ โฆษก ทบ. แจงใช้กระสุนคลัสเตอร์กับเป้าหมายทางทหาร กระแทกเป้าแล้วแตกเลย ไม่ตกค้างในพื้นที่ ที่สำคัญอนุสัญญา CCM ไม่มีผลผูกพัน ทั้งไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นภาคีของอนุสัญญาดังกล่าว ต่างจากเขมรละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ใช้ทุ่นระเบิดสังหาร 

วันนี้ (24 ธ.ค.68) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา ได้เผยแพร่ภาพวัตถุระเบิด และถ้อยแถลงของ นายลี ทุจ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา CMAA โดยกล่าวอ้างว่า ไทยมีการใช้กระสุนปืนใหญ่แบบกระสุนคลัสเตอร์ M-46  ในหลายประเด็นดังนี้ 

1.กรณีที่  “กัมพูชาอ้างว่า ระเบิดคลัสเตอร์ M-46 ที่กองทัพไทยใช้  และมันไม่ใช่แค่เพียงอาวุธ แต่มันคือกับดักสำหรับพลเรือน ”
กองทัพบก ยืนยันว่า  ที่กัมพูชาอ้างว่าระเบิดคลัสเตอร์ M-46  แท้จริงแล้วเป็นกระสุนปืนใหญ่แบบทวิประสงค์ที่ใช้ต่อเป้าหมายทางทหาร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำลายเท่านั้น โดยเมื่อกระสุนหลักกระทบเป้าหมาย กระสุนย่อยที่บรรจุอยู่ภายในจะทำการระเบิดต่อเนื่องในทันที ซึ่งกระสุนดังกล่าว ไม่ใช่ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (anti-personnel landmines) และมิได้มีลักษณะเป็นอาวุธดักทำร้ายพลเรือนแต่อย่างใด

2.กรณีกัมพูชาอ้างว่า ระเบิดเหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ทั่วแผ่นดิน ทั้งพื้นที่ทางการเกษตร ป่าไม้ และหมู่บ้านและมันจะยังคงอยู่ แม้สงครามสิ้นสุดลง โดยไม่สามารถมองเห็น สำหรับเด็กชาวกัมพูชา มันคือฆาตกรที่ปลอมตัวเป็นของเล่นหรือขยะธรรมดา ”
โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า กระสุนปืนใหญ่ดังกล่าว เมื่อกระสุนหลักกระทบเป้าหมายแล้ว กระสุนย่อยที่บรรจุอยู่ภายในจะระเบิดต่อเนื่องในทันที ไม่มีผลตกค้างในระยะยาวต่อพลเรือน การกล่าวอ้างในลักษณะดังกล่าวเป็นการกล่าวบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยมีเจตนามุ่งกล่าวหาและลดทอนความน่าเชื่อถือของฝ่ายไทย

3.กรณีที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่า นี่ไม่ใช่การป้องกัน มันคือภัยคุกคามต่อแผ่นดินและชีวิตของประชาชนชาวกัมพูชา
โฆษกกองทัพบกยืนยันว่า การปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายไทยเป็นไปตามหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลัก “ความจำเป็นทางทหาร” และ “ความได้สัดส่วน” ใช้อาวุธเพื่อโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น

โฆษกกองทัพบก ย้ำว่า อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้กระสุนคลัสเตอร์ (Convention on Cluster Munitions – CCM) ซึ่งห้ามภาคีใช้งาน ผลิต หรือสะสมอาวุธชนิดนี้นั้น ไม่มีผลผูกพัน เพราะทั้งประเทศไทยและกัมพูชา มิได้เป็นภาคีของอนุสัญญาฉบับดังกล่าว

กองทัพบกขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกและองค์กรระหว่างประเทศพิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน และตระหนักถึงพฤติกรรมการใช้อาวุธและการปฏิบัติทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ที่ยังคงมีการใช้ใช้อาวุธยิงสนับสนุน เช่น ระบบ BM-21 อาวุธปืน ทุ่นระเบิด PMN-2 รวมถึงการดัดแปลงลูกกระสุนและระเบิดแสวงเครื่องจำนวนมาก ยิงเข้ามาในดินแดนประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนฝ่ายไทยมาโดยตลอด ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงยึดมั่นในการใช้กำลังอย่างรับผิดชอบ ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ และพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยความโปร่งใส เพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศอย่างถึงที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง