กก.บห. ปชป. รับรองจุดยืนพรรค หากตั้งรัฐบาลไม่ร่วม “พรรคกล้าธรรม” พร้อมมัด อภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้ายาว 4 ปี ลุ้น 26 ธ.ค. เปิดตัว 3 แคนดิเดต
วันนี้ (24 ธ.ค.68) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุม กรรมการบริหารพรรค โดยมีวาระสำคัญ ขอมติจากที่ประชุมเพื่อจัดลำดับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค คาดว่า อันดับ 1 คือ นายอภิสิทธิ์ ลำดับ, 2 น.ส. การดี เลียวไพโรจน์ ลำดับ และ 3 นายกรณ์ จาติกวาณิช
นายพงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรค เปิดเผยว่า ที่ประชุมมอบหมายให้เลขาธิการพรรค ดำเนินการคัดสรรและจัดส่งให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณาทางออนไลน์ คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในวันพรุ่งนี้ และจะสามารถเปิดตัวแคนดิเดตทั้ง 3 คนได้ ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ ส่วนนโยบายพรรคทั้งหมดจะเปิดอย่างทางการอีกครั้งหลังวันรับสมัคร สส.
นอกจากนี้ ที่ประชุมกรรมการบริการพรรคยังมีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวน หากพรรคได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน กรณีพบว่ามีผู้สมัครของพรรคกระทำการผิดกฎหมายเลือกตั้ง เช่น การซื้อเสียง หรือ พฤติกรรมอื่นๆ สามารถแจ้งเบาะแสได้ทุกช่องทางการสื่อของพรรคประชาธิปัตย์ หากตรวจสอบพบว่ามีความจริง พรรคจะยุติและไม่สนับสนุนผู้สมัครคนดังกล่าวอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน กรรมการบริหารพรรค ยังมีมติรับรองเจตนารมณ์ของนายอภิสิทธิ์ ที่ได้ประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม ให้เป็นจุดยืนของพรรค รวมถึงมีมติรับรองให้นายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค จนครบวาระ 4 ปี เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ มีเจตนารมณ์ต้องการฟื้นฟูพรรค ซึ่งต้องใช้เวลาและหลักการ ดังนั้น ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร จะไม่ลาออกจากตำแหน่ง และจะอยู่จนครบวาระ เพื่อดำเนินการตามสัจจะที่ได้มอบไว้กับพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศตัวไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม แสดงว่าจะเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ เพราะพรรคกล้าธรรมจะร่วมรัฐบาลกับทุกพรรค นายพงศกร กล่าวว่า ย้อนสมัยที่พรรคประชาชน เป็นพรรคก้าวไกล ผลสำรวจความเห็นประชาชน อยู่ที่ประมาณ 15% วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ที่ประมาณ 10 % แต่เมื่อถึงวันเลือกตั้ง พรรคก้าวไกล ได้รับความนิยมถึง 45% ดังนั้น มองว่าทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ที่สำคัญพรรคต้องการเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ฟังแล้วอาจเป็นไปได้ยาก แต่ก็มีโอกาสและเคยเป็นมาแล้ว ดังนั้น หากพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลจะไม่มีพรรคกล้าธรรม
ส่วนที่พรรคส่งผู้สมัครไม่ครบ 400 เขต นายพงศกร กล่าวว่า อาจส่งไม่ครบ แต่ก็ให้ได้มากที่สุด เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะดึงคะแนนจาก 42% ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใดมาได้ใช่หรือไม่ นายพงศกร บอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ ขอโอกาสให้การเมืองสุจริตเป็นทางเลือก