“สีหศักดิ์” ประชุมทูตไทยทั่วโลก แจงสถานการณ์ไทย - กัมพูชา กำชับ ให้สื่อสารเชิงรุกโดยตรง ไม่ใช่ส่งแค่เอกสาร ย้ำ ไทยพร้อมเข้าสู่กระบวนการเจรจาทวิภาคี ขณะที่ท่าทีสหรัฐ - จีน อยากเห็นสันติภาพเกิดขึ้น
(24 ธ.ค.68) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประชุมผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ทั่วโลก ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์
นายสีหศักดิ์ เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ ประเด็นหลัก คือ การชี้แจงพัฒนาการความสัมพันธ์ไทย - กัมพูชา หลังไปร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ ว่าด้วยสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องการหยุดยิง ซึ่งผลการประชุมดังกล่าวเป็นไปตามท่าทีของไทย ซึ่งการหยุดยิงไม่ได้มาจากการประกาศ หรือ ฝ่ายกัมพูชาไปประกาศในทุกที่ว่าพร้อมหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข เราจึงได้ถามกลับไปว่ากัมพูชาพร้อมหยุดยิงใช่หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่า ยัง ต้องให้ไทยหยุดยิงด้วย
ดังนั้น จึงต้องพูดคุยเจรจากัน ซึ่งวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ที่จังหวัดจันทบุรี หากทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาจจะมีข้อตกลงร่วมกัน แต่จะเป็นอย่างไรนั้นตนเองยังไม่ทราบ จะสามารถตกลงหยุดยิงกันได้จริงหรือไม่ หรือ ตกลงที่จะคุยกันต่อ หากตกลงกันได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็จะเดินทางไปลงนามร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา
นอกจากนี้ ในการประชุมวันนี้อยากให้เอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ ทำงานสื่อสารในเชิงรุก ทั้งท่าที และการดำเนินการของเราเป็นอย่างไร ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องราวที่มาจากกัมพูชา ซึ่งตนเองจะเล่าถึงท่าทีของไทย และขอให้นำข้อมูลไปชี้แจงสื่อสารกับรัฐบาลที่ประจำการอยู่ ซึ่งจะไม่ใช่การสื่อสารแบบส่งเอกสาร ต้องสื่อสารโดยตรงระดับสูงกับรัฐบาลนั้น ๆ รวมถึง จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น ว่า จะสามารถปรับปรุงการสื่อสารอย่างไร หรือ ประเทศที่ประจำการอยู่นั้นมีมุมมอง และมีท่าทีอย่างไรเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย - กัมพูชา เพราะอาจจะมีทัศนะของบางประเทศที่คิดว่า ไทยอาจเป็นฝ่ายปฏิบัติการเกินความจำเป็น เนื่องจากกัมพูชาเป็นประเทศที่เล็กกว่า แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น หากมองจริง ๆ แล้ว ประเทศที่เล็กกว่าก็มีอาวุธหนัก สามารถสร้างความสูญเสียได้ไม่น้อย จึงอยากทำให้เห็นว่า บางครั้งจุดยืนของเราต้องไม่หวั่นไหว เราต้องมั่นใจ ว่า การปกป้องอธิปไตย และจุดยืนนั้นอยู่บนผลประโยชน์ รวมถึงไม่ได้ปิดประตูเจรจา แต่สงสัยว่าฝ่ายกัมพูชาพร้อมหรือไม่ หรือ ใช้การแสดงออกว่าอาจจะมีการเจรจา หรือ อาจเป็นเชิงกลยุทธ์ พร้อมย้ำว่า ไทยพร้อมเจรจา ที่ผ่านมารู้สึกว่า กัมพูชาอยากจะมาเจรจา ไม่ได้มีความปรารถนาจริง แต่หากอยากเจรจาไทยก็พร้อม ซึ่งหวังว่าการเจรจานั้นจะเป็นไปด้วยความจริงจัง และจริงใจ
ส่วนจะต้องชี้แจงอย่างไร หลังจากกัมพูชาอ้างว่าผู้นำสหรัฐกล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่พูดคุย ท่าทีของสหรัฐนั้น อยากเห็นการลดความรุนแรง และอยากเห็นที่สุด คือ สันติภาพที่กลับมา อยากเห็นการปฏิบัติตาม Joint Declaration ที่สหรัฐเป็นผู้ประสาน แต่ไม่ได้มากดดันไทย เพราะได้บอกไป ว่า ปัญหานั้นอยู่ตรงไหน และเราจะประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ซึ่งได้พูดคุยว่าท่าทีนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งสหรัฐไม่ได้มากดดัน เพียงแค่แสดงความปรารถนาที่ให้สองฝ่ายนั้นมาพูดคุยกัน และสหรัฐก็รับฟังในสิ่งที่ตนเองพูดมาตลอด
นายสีหศักดิ์ ยังกล่าวถึงท่าทีของจีน ว่า จีนมีความต้องการอยากให้เพื่อนบ้านอยู่ด้วยกัน ซึ่งเราได้บอกไปว่า เราอยากอยู่ด้วยกัน รวมถึงอยากให้ยุติปัญหาความรุนแรง ซึ่งเราก็เห็นด้วย แต่หนทางที่จะไปสู่ตรงนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยสองฝ่าย ซึ่งประเทศที่สามที่มีความหวังดี เราก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่จะมาบังคับให้ทำแบบนั้น แบบนั้น ก็ไม่ใช่ เราต้องเป็นคนที่อยู่กับสิ่งที่ตกลง เราต้องรับได้ เราไม่ได้ปฏิเสธความหวังดี แต่ข้อเท็จจริง คือ เราต้องคุยกับกัมพูชาให้รู้เรื่อง
ขณะที่ในระยะสั้นจะต้องทำความเข้าใจอย่างไร กับมุมมองที่นานาชาติ ที่เข้าใจว่า เราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่าแต่มีการตอบโต้ประเทศที่เล็กกว่า นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้จะยกระดับการสื่อสาร และจะสอบถามเอกอัครราชทูตแต่ละประเทศ ว่า การสื่อสารระดับสูงทำในลักษณะใดบ้าง เพียงพอหรือไม่ หรือ ตรงไหนที่ประเทศต่าง ๆ ยังไม่กระจ่าง เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เราต้องตามเกมให้ทัน การที่ประชุมวันนี้จะตอกย้ำความสำคัญการสื่อสารในเชิงรุก การสื่อสารระดับสูง และการสื่อสารที่เห็นภาพทั้งหมด สามารถสื่อสารท่าทีของไทยให้ตรงกับข้อเท็จจริง