สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่จังหวัดอุบลราชธานี นครพนม และนครราชสีมา วันที่ 24-25 ธันวาคม 2568

View icon 81
วันที่ 24 ธ.ค. 2568 | 20.02 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 10.25 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567 ในการนี้ พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติศักดิ์ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน มีพระภิกษุ 1 รูป และผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน ได้รับการถวายและพระราชทานรางวัลรัตโนบล, มีผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รวม 2,584 คน

โอกาสนี้ มีพระราโชวาทความตอนหนึ่งว่า "ความสำเร็จในการศึกษาที่ท่านได้รับในวันนี้ เป็นผลจากความเพียรพยายามและความมุ่งมั่นของท่าน ที่ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและฝึกฝนตนเอง จนสำเร็จตามเป้าหมาย เชื่อว่าทุกท่านจะภาคภูมิใจ และตั้งความปรารถนาไว้ว่าจะนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่ ไปใช้ให้บังเกิดประโยชน์แท้จริง ทั้งแก่ตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ แต่ในโลกปัจจุบันซึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนั้น ความรู้และเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยิ่งเป็นที่ประจักษ์ชัด ว่าการศึกษาของคนเราไม่ควรสิ้นสุดเพียงในสถาบันการศึกษา หากแต่เป็นภารกิจตลอดชีวิตของทุกคน บัณฑิตจึงควรเพียรพยายามและมุ่งมั่นให้ตลอดต่อเนื่อง ที่จะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งหมั่นฝึกฝนอบรมจิตใจให้ยึดมั่นในคุณธรรมความดีมีความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญูตระหนักรู้ในความดีของผู้อื่น และเมตตาปรารถนาดีต่อผู้อื่นต่อชาติบ้านเมือง ถ้าทำได้ แต่ละคนก็จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์สังคม และประสบความสำเร็จที่สูงขึ้น คือความสำเร็จในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน ให้บรรลุถึงความดีความเจริญ"

หลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตร พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายกสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นำอธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย และพระราชทานพระราชวโรกาสให้ นักศึกษาทุนพระราชทานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลเรื่องผลการศึกษาและแนวทางการดำเนินชีวิต ซึ่งเป็นนักเรียนจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ตั้งใจเรียน ได้รับพระราชทานทุนการศึกษาต่อเนื่อง เมื่อสำเร็จการศึกษาตั้งใจที่จะกลับไปช่วยพัฒนาชุมชนบ้านเกิด

มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปัจจุบันเปิดสอน 86 หลักสูตร สร้างบัณฑิตที่มีทักษะสูง สร้างองค์ความรู้ นวัตกรรม และส่งเสริมวัฒนธรรมภูมิปัญญาอีสานใต้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในอาเซียน ภายใต้ปรัชญา "มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีสร้างสติและปัญญาแก่สังคมบนพื้นฐานความพอเพียง"

เวลา 15.38 น. เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปยังหอประชุมวชิรบพิตร มหาวิทยาลัยนครพนม อําเภอเมืองฯ จังหวัดนครพนม ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567

โดยปีนี้ สภามหาวิทยาลัยนครพนม มีมติเป็นเอกฉันท์ มอบปริญญากิตติมศักดิ์ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน และมอบรางวัลเข็มเชิดชูเกียรติพระธาตุพนม แก่ผู้ทรงเกียรติที่สร้างคุณูปการต่อมหาวิทยาลัย สังคม และประเทศชาติ 6 คน สำหรับ ปีการศึกษา 2567 มี ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปริญญาโท  และปริญญาตรี เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จากคณะต่าง ๆ รวม 913 คน

ในการนี้ มีพระราโชวาท เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตแก่บัณฑิต ความสำคัญว่า "บัณฑิตที่สําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนับเป็นผู้มีความรู้พร้อม สําหรับนํามาใช้ในการประกอบกิจการงานและการดำเนินชีวิต แต่การที่จะทำงานและนำพาชีวิตให้บรรลุถึงความสำเร็จนั้น นอกจากจะต้องอาศัยความพร้อมทางวิชาการแล้ว ยังจำเป็นต้องมีความอุตสาหะ พากเพียร และความซื่อสัตย์สุจริต เป็นรากฐานสำคัญด้วย ความอุตสาหะพากเพียร คือ ความขยัน อดทน มานะพยายาม และกล้าหาญ ที่จะกระทำในสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา ส่วนความซื่อสัตย์สุจริต คือความซื่อตรงจริงใจ ต่อตนเอง ต่อผู้อื่น ต่องานที่ทำ ความมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่เอารัดเอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น และความประพฤติดีปฏิบัติชอบ ในที่ทุกแห่งและในการทุกเมื่อ หากบัณฑิตดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน โดยมีความรู้และคุณธรรมสองข้อนี้เป็นพื้นฐาน ผลแห่งการปฏิบัติของแต่ละคน ย่อมเป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนแท้จริง ทั้งแก่ตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศชาติ จึงขอให้ทุกคนหมั่นฝึกฝนอบรมตน ให้เป็นบัณฑิตที่ถึงพร้อมด้วยความรู้และคุณธรรมประจำใจดังที่กล่าว แล้วร่วมกันสร้างสรรค์ความดีความเจริญ ให้แก่ตนและแก่โลกตลอดไป"

มหาวิทยาลัยนครพนม ได้รับการจัดอันดับ Impact Ranking 2024 โดย Time Higher Education ให้เป็นมหาวิทยาลัยด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนอันดับที่ 9 (ร่วม) ของประเทศ และได้รับการประเมินด้านคุณธรรมและความโปร่งใสสูงถึง 94.14 คะแนน พร้อมมุ่งผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ ตลอดจนเน้นการบูรณาการองค์ความรู้ เพื่อให้บัณฑิตมีทักษะการทำงาน รวมถึงส่งเสริมงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในปีการศึกษาที่ผ่านมา บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษามีงานทำและประกอบอาชีพอิสระ เป็นอัตราเกินร้อยละ 90

ข่าวอื่นในหมวด