โดยนายพงศ์นคร โภชากรณ์ ผู้อำนวยการกองนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน ในฐานะผู้ช่วยโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ดำเนินการโอนเงินสนับสนุนให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าที่ผ่านหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส (โครงการฯ) และมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐเรียบร้อยแล้วในวันนี้ (25 ธันวาคม 2568) ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ของร้านค้าที่ผูกกับแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”
จากการประมวลผลข้อมูลของผู้ประกอบการร้านค้าที่ผ่านหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 97,086 ราย พบว่า มีผู้ประกอบการร้านค้าที่ได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 95,059 ราย โดยได้รับเงินสนับสนุนเป็นจำนวนที่แตกต่างกัน และมีผู้ประกอบการร้านค้าที่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดตามสิทธิจำนวน 2,000 บาท เป็นจำนวนทั้งสิ้น 34,970 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 36 ของผู้ได้รับสิทธิทั้งหมด รวมเป็นเงินที่รัฐสนับสนุนตามโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 117.47 ล้านบาท อย่างไรก็ดี มีผู้ประกอบการร้านค้า 2,027 ราย ที่ไม่ได้รับเงินสนับสนุน เนื่องจากไม่มีรายการยอดขายจากโครงการคนละครึ่ง พลัส ในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่ายในช่วงเวลาที่กำหนด
สำหรับตัวอย่างการคำนวณเงินสนับสนุนจากรัฐ คำนวณได้จากร้อยละ 20 ของยอดขายที่เกิดจากโครงการคนละครึ่ง พลัส เฉพาะในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย นับตั้งแต่วันที่ร้านค้าได้ดำเนินการพัฒนาทักษะสำเร็จ จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 เช่น ร้านค้าที่มียอดขายส่วนที่รัฐร่วมจ่ายสะสม 9,000 บาท จะได้รับเงินสนับสนุนร้อยละ 20 เป็นเงินรวม 1,800 บาท ทั้งนี้ ร้านค้าสามารถตรวจสอบประวัติยอดขายย้อนหลังได้ด้วยตนเองผ่านเมนู “สรุปยอดขาย” ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”
ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้แจ้งผลการได้รับสิทธิในเงินสนับสนุนตามโครงการฯ ผ่านข้อความสั้น (SMS) ตามหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลงทะเบียนร้านถุงเงิน และข้อความแจ้งเตือน (Notification) ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” โดยหากผู้ประกอบการร้านค้าได้รับข้อความแจ้งผลว่า ร้านค้าไม่ได้สิทธิโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill-Reskill) ขอเรียนว่า เกิดจากสาเหตุ เช่น (1) กระทรวงการคลังตรวจสอบเลขประจำตัวประชาชนหรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษีที่ลงทะเบียนอบรมออนไลน์หรือที่ลงทะเบียนกับผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) แล้วไม่ตรงกับเลขประจำตัวประชาชนหรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของร้านค้าถุงเงินในโครงการคนละครึ่ง พลัส (2) มีสถานะเป็นร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส ภายหลังพัฒนาทักษะสำเร็จ (3) เป็นร้านค้าที่ถูกระงับสิทธิในโครงการคนละครึ่งหรือคนละครึ่ง พลัส เป็นต้น
นอกจากนี้ สำหรับผู้ประกอบการอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้รับข้อความสั้น (SMS) ตามหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลงทะเบียนร้านถุงเงิน และข้อความแจ้งเตือน (Notification) ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น (1) ไม่ผ่านหลักเกณฑ์การอบรมออนไลน์ของธนาคารออมสินหรือ DBD Academy โดยมีผลคะแนนหลังเรียน (Post-Test) ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด หรือมีผลคะแนนทดสอบหลังเรียน (Post-Test) น้อยกว่าหรือเท่ากับผลคะแนนก่อนเรียน (Pre-Test) จึงไม่ถูกส่งข้อมูลมาประมวลผลต่อที่กระทรวงการคลัง (2) ไม่ใช่ร้านค้าถุงเงิน (3) เป็นผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมพัฒนาทักษะผ่าน Food Delivery Platform แต่มีคำสั่งซื้อที่ใช้สิทธิผ่านโครงการคนละครึ่ง พลัส ไม่ถึง 5 รายการ ภายในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 เป็นต้น ซึ่งหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ข้างต้น เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังได้ประกาศ และผู้ประกอบการร้านค้าได้รับทราบและตกลงยินยอมไว้แล้วก่อนเริ่มโครงการฯ
ทั้งนี้ สำหรับผู้มีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐที่กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางโอนเงินให้ไม่สำเร็จในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 รัฐจะมีการติดตามเพื่อโอนเงิน (Retry) ให้อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 30 มกราคม 2569 และในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2569 โดยเมื่อพ้นกำหนดดังกล่าว จะถือว่าผู้ประกอบการร้านค้าไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
ข้อมูลเพิ่มเติม
1. เว็บไซต์โครงการฯ: ติดตามรายละเอียดโครงการฯ และข้อมูลข่าวสารได้ทาง www. คนละครึ่งพลัส .com
2. สอบถามข้อมูลโครงการฯ: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 08-5842-7102, 08-5842-7103, 08-5842-7104, 08–5842-7105, 08-5842-7106, 08-5842-7107, 08-5842-7108, 08-5842-7109 ตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
3. ธนาคารออมสิน : สอบถามข้อมูลหลักสูตรของธนาคารออมสิน โทร. 1115 กด 7 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตลอด 24 ชั่วโมง
4. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ : สอบถามข้อมูลหลักสูตรของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงการพาณิชย์ โทร. 1570 ตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
ขอบคุณข้อมูล กระทรวงการคลัง : Ministry of Finance