สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดนครราชสีมา

View icon 69
วันที่ 25 ธ.ค. 2568 | 20.05 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 08.32 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปยังอาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครราชสีมา ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567

โดย สภามหาวิทยาลัยฯ มีมติทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยทรงริเริ่มโครงการและทรงสนับสนุนทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม บูรณาการผ่านพระราชกรณียกิจต่าง ๆ เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ เป็นที่ประจักษ์ทั้งระดับชาติและนานาชาติ

ในการนี้ พระราชทานปริญญาบัตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน เกียรติบัตรศาสตราจารย์เกียรติคุณ 4 คน มีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รวม 1,917 คน พระราชทานเข็มทองคำแก่ผู้สำเร็จการศึกษาเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ได้คะแนนยอดเยี่ยมสาขาวิชาต่าง ๆ รวม 33 คน และโล่เกียรติยศรางวัลศรีปีบทองแก่นักศึกษาที่มีผลงานและความสามารถดีเด่น 1 คน
 
โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทความตอนหนึ่งว่า "ข้าพเจ้าเชื่อว่า การที่บัณฑิตอุตสาหะพยายามศึกษาเล่าเรียน จนได้รับปริญญาบัตร ก็ด้วยเห็นว่าการศึกษาเป็นพื้นฐานสําคัญแท้จริง ในการดําเนินชีวิตและประกอบอาชีพให้เจริญมั่นคง แต่นอกจากความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาดังกล่าวแล้ว ทุกคนพึงระลึกไว้เสมอว่า ยังมีสิ่งสําคัญอีกอย่างหนึ่งด้วย คือ ความสามารถที่จะนําความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ อันจะนํามาซึ่งความรุ่งเรืองก้าวหน้าในชีวิตและกิจการงานดังประสงค์ บัณฑิตจึงต้องหมั่นฝึกฝนการนำความรู้ไปใช้ โดยมีคุณธรรมความสุจริต คอยกํากับประคับประคองให้ใช้ได้อย่างถูกต้อง ตามหลักวิชา หลักเหตุผล และหลักธรรม พร้อมกันนั้น ก็ตั้งใจพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ทั้งในทางความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมความดี ถ้าทําได้ แต่ละคนก็จะสามารถสร้างสรรค์ความเจริญมั่นคงในชีวิตและกิจการงาน พร้อมทั้งเป็นกําลังสําคัญในการสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้ สมกับที่มีวิทยฐานะอันสูง"

ภายหลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารสุรสัมมนาคาร พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ผู้ว่าการสถาบันการบินพลเรือน เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแบบจำลองเฮลิคอปเตอร์ Robinson R44 เครื่องฝึกบินของสถาบันฯ สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการบินของไทย โดยสถาบันการบินพลเรือน เป็นสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เปิดสอนหลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรี เฮลิคอปเตอร์แห่งเดียวในประเทศไทย

จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น "ระบบตัดสัญญาณควบคุมอากาศยานไร้คนขับ ระยะไกล" พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามจากอากาศยานไร้คนขับในพื้นที่ชายแดน ต้นทุนต่ำ ใช้งานได้จริง, "X-Zense 101 เครื่องตรวจคัดกรองมะเร็งแบบพกพา" ขนาดกระทัดรัด ใช้งานง่าย แสดงผลเร็ว ในอนาคตจะพัฒนาให้ตรวจคัดกรองมะเร็งได้ถึง 6 ชนิด ได้แก่ ตับ ปอด เต้านม ลำไส้ใหญ่ ปากมดลูก และต่อมลูกหมาก, "เปปโตเดอร์มา ไบโอคอสเมติก สการ์เจล" ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวผสานด้วยเปปไทด์จากจิ้งหรีด ช่วยบำรุงผิวและลดรอยแผลเป็น สามารถต่อยอดเป็นนวัตกรรมเวชสำอางที่มีศักยภาพสูงในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว

ต่อจากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นักศึกษาทุนในพระราชานุเคราะห์ฯ และนักศึกษาทุนการศึกษาตามโครงการพระราชดำริแก่นักศึกษาต่างชาติในภูมิภาคอาเซียน เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลเรื่องผลการศึกษา ทั้งนี้ นับแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน มีนักศึกษาทุนการศึกษาตามโครงการพระราชดำริแก่นักศึกษาต่างชาติในภูมิภาคอาเซียน จากอินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาว และเวียดนาม เข้าศึกษา ณ มหาวิทยาลัยฯ รวม 57 คน

เวลา 13.19 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนสุรนารีวิทยา อำเภอเมืองฯ ทรงเปิดอาคาร "สุรนาครอุดม" เป็นอาคารอเนกประสงค์ 2 ชั้น สร้างขึ้นเมื่อปี 2563 โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดสรรงบประมาณผูกพันประจำปี 2560-2561 แก่โรงเรียนฯ เพื่อจัดสร้างศูนย์การจัดกิจกรรมทางวิชาการ และส่งเสริมการเรียนรู้แก่นักเรียน ตลอดจนเป็นพื้นที่สร้างความสามัคคีระหว่างครู นักเรียน และชุมชน ปัจจุบัน แล้วเสร็จสมบูรณ์ และได้รับพระราชทานนามอาคาร อันหมายถึง อาคารที่บริบูรณ์พร้อมสำหรับชาวสุรนารีวิทยา รวมทั้งพระราชทาน พระราชานุญาตให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย "ส.ธ." ขึ้นประดิษฐานบนอาคาร เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย

ในการนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการ "ศตวรรษสุรนารีวิทยา" ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของโรงเรียน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2468 เดิมชื่อว่า โรงเรียนประจำจังหวัดนครราชสีมา เปิดสอนแบบสหศึกษา โดยมี ขุนสุบงกชศึกษากร (นาก สุบงกช) เป็นครูใหญ่คนแรก ต่อมาย้ายเข้าที่ตั้งถาวรบริเวณตำบลในเมือง และแปรสภาพเป็นโรงเรียนหญิงล้วน ปัจจุบันเปิดสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 มีนักเรียน 4,336 คน

โดยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2507 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานของโรงเรียน ในปีเดียวกันนี้ ยังได้รับเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการ ให้ทดลองจัดการเรียนการสอนแบบหลักสูตรกว้าง โครงการมัธยมแบบประสม ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาการศึกษาส่วนภูมิภาค มีผลให้เป็นโรงเรียนแบบประสม ที่เป็นต้นแบบให้กับโรงเรียนในประเทศอีกหลายแห่ง ที่ผ่านมาสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีคุณภาพ ทำให้ได้รับรางวัลสำคัญ ๆ หลายรางวัล เช่น รางวัลชนะเลิศการประกวดวงโยธวาทิตนานาชาติ ประเภทนั่งบรรเลง การแข่งขันวงดุริยางค์เครื่องลมนานาชาติ ณ สาธารณรัฐเช็ก ปี 2562

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแสดง ร้อยวรีรัก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 และชมรมเครื่องสายไทย โรงเรียนสุรนารีวิทยา ร่วมกันแสดงการขับร้องประสานเสียง ในบทเพลงพระราชนิพนธ์ "ลาวดวงเดือน" และ เพลง "รัก" ประกอบเครื่องดนตรีไทยและเครื่องดนตรีสากล เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยทรงเป็นดั่งเข็มทิศและพลังใจอันสำคัญ ที่ทำให้โรงเรียนสุรนารีวิทยา มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการศึกษา สานต่อพระราชปณิธานในการสร้างเยาวชนของประเทศให้มีความรู้คู่คุณธรรม ที่โดดเด่นทั้งด้านวิชาการและด้านวิชาชีพมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 6 มีผลคะแนนเฉลี่ยระดับโรงเรียนทุกรายวิชา ในการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศ สำหรับในปี 2568 นี้ เป็นปีแห่งการก่อตั้งโรงเรียนฯ ครบ 100 ปี บริบูรณ์

ข่าวอื่นในหมวด