ห้องข่าวภาคเที่ยง - คำพูดที่ว่า "กัมพูชา ไว้ใจไม่ได้" คำพูดนี้ เราเคยได้ยินอดีตแม่ทัพกุ้ง กล่าวเอาไว้เมื่อครั้งยังเป็นแม่ทัพภาค 2 ทหารที่อยู่ในพื้นที่ ชาวบ้านชายแดนที่สัมผัสตรง กับพฤติกรรมของก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน หรือแม้แต่การพูดคุยระดับเจ้าหน้าที่ที่เป็นทางการ ก็แสดงพฤติกรรมให้เห็นว่า ไม่มีความจริงใจ
ไม่ต้องดูอื่นไกล หรือ ไปนั่งวิเคราะห์ให้ยุ่งยาก เมื่อวานนี้ ในการประชุม GBC วันที่ 2 ในการประชุมช่วงบ่าย หลังจากฝ่ายกัมพูชาข้ามกลับไปกินมื่อเที่ยงในฝั่งของตน พอถึงเวลาประชุม ต้องขอเลื่อนขอผลัดไป 3 รอบ จากนัดไว้บ่าย 2 กลับมาประชุมอีกที่ตอน 19.30 น. ปล่อยให้ฝ่ายเรานั่งรอเงกไป ถามว่า "ความจริงใจอยู่ตรงไหน"
และการประชุม GBC ครั้งนี้ ย้อนกลับไปก่อนจะถึงวันนัดประชุม ได้มีหนังสือจากกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ส่งถึงบิ๊กเล็ก พลเอกณัฐพล นาคพานิช รมว.กลาโหม ว่าจะขอให้ไปจัดประชุมที่มาเลเซีย โดย 1 ใน วาระการประชุม ที่กัมพูชายื่นเสนอมา คือ เรียกร้องให้ยุติการสู้รบทั้งหมดโดยทันที และขอให้มีการเคารพ และปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และปฏิญญาร่วมกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 อย่างเต็มที่
ถ้ายังจำกันได้ 1 ในปฏิญญาร่วม กัวลาลัมเปอร์ ในนั้น มีเรื่องของการขอให้กัมพูชา หยุดใช้ทุ่นระเบิด และร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด
แต่นอกจากกัมพูชาจะไม่ยอมร่วมมือช่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิดกันอย่างจริงจังแล้ว บางที่ยังมีการขัดขวางไม่ให้ทหารไทยเข้าเก็บกู้
แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุด และเราควรต้องตระหนักว่า กัมพูชาไว้ใจไม่ได้ คือ เมื่อวานนี้ ทหารของเราต้องเสียขาที่ 9 สังเวยให้กับทุ่นระเบิด ที่ทหารกัมพูชาลักลอบฝังไว้บนเนิน 350 หลังเกิดเหตุ ทหารที่ไปเคลียร์พื้นที่ ยังพบทุ่นระเบิดที่ลักลอบฝังไว้ อีกหลายทุ่น
วันนี้ การประชุม GBC เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ต้องเคาะข้อสรุปผลการประชุมแล้วในวันนี้ว่า จะหยุดยิงกันได้หรือไม่ และทั้ง 2 ฝ่าย ยื่นข้อเสนอ เงื่อนไขอะไร แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ กัมพูชาจะทำตามข้อตกลง หรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ชาวบ้านเขาไม่เชื่อใจกัมพูชา