สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ตลอด 19 วัน ที่ไทย-กัมพูชา เปิดฉากปะทะกัน เห็นได้ว่ากองทัพไทยปฏิบัติการทางทหารแต่ละครั้ง ล็อกเป้า ทำลายเป้าหมายอย่างแม่นยำ ผิดกับกองทัพกัมพูชา ยิงมั่ว ๆ เหมือนไร้ยุทธวิธีทางทหารที่ทั่วโลกยึดหลักพึงกระทำ เมื่อวานยิงจรวด BM-21 ข้ามมาตกใส่บ้านพลเรือนไทย พังเสียหายอย่างหนักอีกแล้ว
กัมพูชา ยิงไม่เลือก บ้านพลเรือนไทยพังยับ จ.สระแก้ว
ที่เห็นคือสภาพบ้านของชาวบ้าน ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นหลังล่าสุด ถูกจรวด BM-21 ของกัมพูชา ยิงข้ามมาตกใส่ ตอนช่วงสายเมื่อวาน (26 ธ.ค.) แรงระเบิดทำให้บ้านหลังนี้ ซึ่งสูง 2 ชั้น ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งด้านนอกและด้านใน
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปเจอกับ นางสาวกัญญารัตน์ อายุ 37 ปี เจ้าของบ้าน ทำงานเป็นบุคลากรทางการแพทย์ บอกว่า คาดไม่ถึงว่าบ้านของเธอจะตกเป็นเป้า ถูกกัมพูชาโจมตี โดยย้ายออกจากบ้านมาตั้งแต่วันแรก ๆ ที่มีการปะทะกัน และเมื่อวานเธอยังไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยในศูนย์พักพิงตามปกติ
กระทั่งช่วงสายประมาณ 10.00 น. คนรู้จักโทร.มา บอกว่า บ้านถูกระเบิดลง ตอนแรกเธอยังไม่เชื่อ รีบขับรถไปดู พอเห็นสภาพบ้านที่สร้างจากน้ำพักน้ำแรง พาครอบครัว 5 คน เข้าไปอยู่อย่างอบอุ่นได้เกือบ 4 ปี มาวันนี้กลับต้องพังเสียหายเกือบทั้งหลัง เธอถึงกับร่ำไห้ด้วยความเจ็บใจ ที่ตกเป็นเป้า ถูกกัมพูชากระทำอย่างไร้มนุษยธรรม
นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์อีกคัน เพิ่งซื้อราคา 800,000 บาท จอดไว้หน้าบ้าน ถูกแรงระเบิดเสียหายทั้งคัน
ผู้อพยพ ขอทหารไทยจัดหนัก กัมพูชาให้สิ้นสภาพ จ.สุรินทร์
ชาวบ้านที่อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ มากกว่า 2,000 ครอบครัว ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์พักพิงฯ 2 แห่งของอำเภอปราสาท
นางกันยา มณีศรี อายุ 61 ปี เล่าว่า อพยพมากินนอนอยู่ในศูนย์พักพิงฯ จะเข้าวันที่ 20 แล้ว ยอมรับว่าคิดถึงบ้านมาก แต่ต้องทำใจ เพราะหมู่บ้านยังไม่ปลอดภัย อยากให้ทหารไทยจัดหนักจัดเต็ม ทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพไว ๆ และไม่เชื่อลมปากกัมพูชา ผ่านมากี่ปี ก็นิสัยเดิม ๆ ไม่เคยมีความจริงใจ
ขณะเดียวกัน นายรุจิภาส มีกุศล โฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรมวุฒิสภา ลงเยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพในศูนย์พักพิงฯ พื้นที่อำเภอปราสาท นำสิ่งของใช้จำเป็นให้ผู้อพยพได้กินยังชีพ ประทังไปจนกว่าถึงวันได้กลับบ้าน