ลงนามหยุดยิง ถือว่า เข้าทางไทยที่สุดแล้ว ถ้าหยุดไม่ได้ “อำนาจอื่น” จะมาแทรกแซง “วันวิชิต” เผยเบื้องหลังการลงนามจันทบุรี หลังไทยคุมความมั่นคงในพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้ตามเป้า ใน 72 ชม. หากเขมรละเมิด ตอบโต้ทางทหารทันที
ข้อตกลงหยุดยิง วันนี้ (28 ธ.ค.68) ผศ.ดร. วันวิชิต บุญโปร่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ็กส่วนตัวถึงการลงนามที่จันทบุรี ถือว่าเข้าแนวทางของเราตามที่ต้องการแล้ว โดยอธิบายเบื้องหลัง ดังนี้
1. กองทัพไทยได้สถาปนาพื้นที่ความมั่นคง และพื้นที่ของไทยกลับในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ตามที่กำหนดทุกจุด (ส่วนจุดอื่นๆ ที่ในโลกโซเชียลถามกัน ทำไมไม่เอาเนินนั้น เนินนี้ ตรงนี้กองทัพกำหนดแผนปฏิบัติเอง)
2. การบังคับ และดึงกัมพูชาให้มาพูดคุยเจรจาในกรอบทวิภาคีของทั้งสองประเทศเท่านั้น ถือว่าเป็นการป้องกัน “อำนาจอื่นแทรก” กัมพูชาจะไม่สามารถดิ้นไปหา “อำนาจอื่น” มาช่วยเหลือได้
3. หากใน 72 ชั่วโมง กัมพูชาละเมิด ถือว่ากัมพูชาละเมิด เราตอบโต้ทางทหารคืนทันที
4. ภาพการลงนามนี้ เพื่อให้ประชาคมโลกที่ถูกกัมพูชาปั่นข้อมูลข่าวสาร ว่าเป็นเหยื่อ ถูกไทยกระทำ จะเป็นการหักล้างว่า เราเริ่มกระบวนการเจรจานี้เอง เพราะหากธรรมชาติการรุกราน ชาติที่ได้เปรียบจะไม่ยอมเจรจาอย่างเด็ดขาด จะรบต่อไป แต่กรณีของไทย ต้องการหน่วงอารมณ์ผู้คนทั้งโลกหันมาเข้าใจว่า เราไม่ได้เริ่มยิงก่อน เราตอบโต้ตามลำดับสัดส่วน จนถึงขั้นทำลายพื้นที่ระดับลึกทางทหาร โดยระมัดระวังไม่ให้กระทบพื้นที่พลเรือนขาวกัมพูชาเลย
“เราเล่นไพ่ที่ชื่อว่า อารยะ เมื่อจั่วลงไปแล้ว โลกจะเข้าใจไทยมากขึ้น”
5. เราไม่ใช่สังคมป่าเถื่อน ที่จะทะเลาะตบตี โดยยับยั้งชั่งใจเองไม่ได้ ถ้าหยุดไม่ได้ “อำนาจอื่น” จะมาแทรกแซงและจะกำหนดบทลงโทษ และเยียวยาชาติที่เล็กกว่าเสมอ (กรณีที่กัมพูชาได้ มีสัญญาว่าจะให้” กับชาติมหาอำนาจที่เข้ามาเอี่ยว)
6. เราไม่ได้แพ้ในการเจรจา ไม่ได้แพ้ในทางทหาร แต่เรากำลังบริหารจัดการเกมทางการทูต การต่างประเทศ
7. ทุกสมรภูมิย่อมมีการเจรจา วันหนึ่งทุกคนต้องกลับไปใช้ชีวิตปกติสุข ไม่มีคำว่าสูญเปล่า เราได้พื้นที่ของเราคืน เขมรเจ็บหนักแทบสิ้นสภาพ การเมืองเขมรถูกเขย่าหนัก สแกมเมอร์กระทบหนัก ขอให้ใจเย็น ๆ มีสติกัน เราลุยต่อแน่ถ้าเขาเบี้ยว
อ.วันวิชิต ระบุทิ้งท้ายว่า ความถูกต้อง ชอบธรรมอยู่เคียงข้างประเทศไทย