สธ.เผย หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเริ่มคลี่คลาย รพ.กันทรลักษ์กลับมาเปิดบริการปกติแล้ว ส่วน รพ. ใน จ.สระแก้ว เตรียมเปิด 31 ธ.ค.นี้

สธ.เผย หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเริ่มคลี่คลาย รพ.กันทรลักษ์กลับมาเปิดบริการปกติแล้ว ส่วน รพ. ใน จ.สระแก้ว เตรียมเปิด 31 ธ.ค.นี้

View icon 29
วันที่ 29 ธ.ค. 2568 | 13.44 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (29 ธ.ค. 68) รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มคลี่คลาย ไม่มีเหตุปะทะต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 รพ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว ส่วนรพ.กาบเชิง และรพ.พนมดงรักเฉลิมพระเกียรติฯ จ.สุรินทร์ เริ่มเปิดให้บริการบางส่วน แต่ยังให้เฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง

ทางด้าน จ.สระแก้ว เตรียมสนับสนุนการอพยพประชาชนกลับ สถานพยาบาลพร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบ 31 ธันวาคมนี้ ติดตามดูแลสุขภาพจิตกลุ่มเปราะบางที่กลับบ้าน เยียวยาจิตใจครอบครัวผู้สูญเสีย

ทางด้าน นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มี นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน และ นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม ว่า หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ไม่มีเหตุปะทะต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 สถานพยาบาลได้กลับมาเปิดบริการตามปกติวันนี้ 1 แห่ง คือ โรงพยาบาลกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

และเปิดบริการบางส่วน 2 แห่งที่ จ.สุรินทร์ คือ โรงพยาบาลกาบเชิง เปิดเฉพาะฉุกเฉินและผู้ป่วยนอก และโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เปิดเฉพาะฉุกเฉิน ยังเหลือสถานพยาบาลที่ปิดให้บริการ 6 แห่ง คือ โรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โรงพยาบาลบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โรงพยาบาลตาพระยา โรงพยาบาลโคกสูง โรงพยาบาลคลองหาด และโรงพยาบาลอรัญประเทศ จ.สระแก้ว อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ทุกพื้นที่เสี่ยงยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

นพ.เอกชัยกล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ จ.สระแก้วซึ่งแนวทางปฏิบัติกรณีหยุดยิงจะครบกำหนด 72 ชั่วโมง วันที่ 30 ธันวาคมนี้ ได้มีแผนที่จะอพยพประชาชนกลับในวันที่ 31 ธันวาคม โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วจะสนับสนุนรถพยาบาลในการนำส่งผู้ป่วยติดเตียง ส่วนสถานพยาบาล ได้จัดทำแผนปฏิบัติการเร่งด่วนเพื่อกลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบเช่นกัน

พร้อมทั้งสำรวจความเสียหายของอาคารสถานที่ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังขาดยาช่วงอพยพ ติดตามดูแลสุขภาพจิต เยียวยาจิตใจผู้สูญเสียและกลุ่มเปราะบางที่กลับบ้าน ร่วมกับการเฝ้าระวังโรคระบาดในชุมชนชายแดนเป็นเวลา 14 วัน

ภาพรวมขณะนี้ ยังคงเหลือศูนย์พักพิงชั่วคราว 660 จุด ผู้เข้าพัก 80,981 ราย แนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคติดต่อลดลง แต่ยังคงให้เฝ้าระวังควบคุมโรคต่อเนื่อง

โดยเฉพาะโรคติดต่อจากอาหารและน้ำ เนื่องจากจะเข้าช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย รวมทั้งให้ติดตามดูแลสุขภาพจิตประชาชนที่เริ่มทยอยกลับบ้าน คนในครอบครัวผู้เสียชีวิต และครอบครัวทหารที่สละชีพ