ข่าวเย็นประเด็นร้อน - "กัมพูชา" พยายามจะบอกกับประชาคมโลก ว่า "ไทย" โจมตีมรดกโลกพังเสียหาย แต่ความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น
จากคลิปนี้จะสังเกตเห็นชัดเจนว่า จุดที่ได้รับความเสียหายหลัก ๆ เป็นฐานที่ตั้งทางการทหารของกัมพูชา ไม่ใช่สิ่งที่ปลูกสร้างขึ้นมาแต่เดิม
นอกจากนี้ ยังมีภาพเส้นทางลำเลียงยุทโธปกรณ์ของกัมพูชา ที่ได้รับความเสียหาย เพราะไทยต้องการตัดเส้นทาง ไม่ให้ "ทหารกัมพูชา" ขึ้นมาใช้ปราสาทเขาพระวิหาร เป็นฐานสู้รบได้ ไม่ใช่เป้าหมายที่ทหารไทยต้องการบุกไปยึดครอง
โดยสภาพเส้นทางลำเลียงที่ถูกทำลาย อยู่ในสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ ทหารกัมพูชา ใช้เวลาเพียง 19 ชั่วโมง 45 นาที ซ่อมถนนขึ้นสู่ปราสาทเขาพระวิหาร จนกลับมาใช้งานได้แล้ว
ถ้าดูจากภาพหลักฐาน ที่ฝั่งไทยรวบรวมมาโดยตลอด จะเห็นได้ชัดว่า จุดต่าง ๆ เหล่านี้คือฐานที่มั่นทางการทหาร ที่กัมพูชา ไปตั้งอยู่รอบ ๆ ปราสาทเขาพระวิหาร และส่วนหนึ่งก็ไปตั้งในตัวปราสาท เองด้วย
แต่โซเชียลฯ กัมพูชา กลับไม่สนใจเรื่องนี้ เอาเฉพาะเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้น ไปบิดเบือนชี้ว่า ไทยตั้งใจโจมตีใส่ "ปราสาทเขาพระวิหาร" แต่ละโพสต์ แต่ละคลิปพยายามมุ่งเน้นที่คำว่า ปราสาทนี้เป็น "มรดกโลก" ของ "ยูเนสโก" และเป็น "สัญลักษณ์ของมรดกทางวัฒนธรรมกัมพูชา" ซึ่งเป็นอีกความพยายามที่ต้องการลดความชอบธรรมของไทย
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ ให้ความเห็นว่า "กัมพูชา" พยายามที่จะรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะจริง หรือเท็จ เพื่อใช้ในเวทีนานาชาติ เอามากดดันไทยให้เสียเปรียบ เพราะรู้ดีว่าการกดดันไทยผ่านช่องทางพูดคุยแบบ "ทวิภาคี" ทำอะไรไทยไม่ได้มาก
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายความมั่นคง โพสต์ความเห็นลงใจเพจฯ ส่วนตัวว่า การที่กัมพูชาใช้ "ปราสาทเขาพระวิหาร" เป็นฐานโจมตีฝ่ายไทย ขัดต่อกฏ "UNESCO World Heritage site" และการโจมตีที่ผ่านมา สังเกตความเสียหายดี ๆ จะเห็นว่า ไทยไม่ได้มุ่งเน้นโจมตีไปตัวปราสาทเลย เพียงแต่การสู้รบที่เกิดขึ้น ทำให้ตัวปราสาทเสียหายไปด้วย ซึ่งไม่เหมือนกัน
เช่นเดียวกับที่ นายภวัต แอดมินเพจฯ ThaiArmedForce.com ให้ความเห็นว่า กองทัพชี้แจงเรื่องนี้กับประชาคมโลกได้ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ "กัมพูชา" ไปตั้งฐานต่อสู้ในจุดใด ตามกฎบัตรสหประชาชาติ พื้นที่นั้นจะกลายเป็น "พื้นที่ทางทหาร" ที่ไทยสามารถโจมตีได้ทันที
