ชาวบ้านทยอยกลับบ้าน หลังหยุดยิง รถกระบะขนข้าวของหลายคันมุ่งหน้าตาพระยา โคกสูง

ชาวบ้านทยอยกลับบ้าน หลังหยุดยิง รถกระบะขนข้าวของหลายคันมุ่งหน้าตาพระยา โคกสูง

View icon 42
วันที่ 29 ธ.ค. 2568 | 19.44 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชาวบ้านทยอยกลับบ้าน หลังหยุดยิง รถกระบะขนข้าวของหลายคันมุ่งหน้าตาพระยา โคกสูง  ปัจจุบันแม้สถานการณ์การสู้รบจะยุติลงแล้ว แต่ยังเป็นช่วงเวลาเฝ้าระวัง 72 ชั่วโมง  

29 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศตลอดเส้นทาง ถนนหมายเลข 33 ตั้งแต่ช่วงรอยต่อมุ่งหน้าเข้าสู่ ถนนสาย 348 วัฒนา–อรัญประเทศ–ตาพระยา พบว่ามีรถยนต์ของประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะรถกระบะ ทยอยสัญจรอย่างต่อเนื่อง ภายในรถและท้ายกระบะบรรทุกสัมภาระ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื่อ หมอน เสื้อผ้า และสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิตอย่างแน่นขนัด เพื่อเตรียมกลับไปยังบ้านเรือนของตนเอง หลังต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยมาเป็นเวลาหลายวัน

บรรยากาศโดยรวมเต็มไปด้วยทั้งความดีใจ ความโล่งใจ และความกังวลปะปนกัน บางครอบครัวเดินทางกลับพร้อมกันทั้งบ้าน ขณะที่บางรายเลือกให้ผู้ใหญ่กลับไปสำรวจบ้านก่อน ส่วนเด็กและผู้สูงอายุยังคงพักอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย รอให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติมากกว่านี้

หนึ่งในประชาชนที่เดินทางกลับบ้าน คือ พี่จ๋อย อายุ 37 ปี ชาวอำเภอตาพระยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่เจ้าหน้าที่อนุญาตให้สามารถเดินทางกลับเข้าบ้านได้ หลังจากต้องอพยพออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 8 ที่ผ่านมา และยังไม่เคยได้กลับเข้าไปดูบ้านของตนเองเลยตลอดระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์

พี่จ๋อยเล่าว่า ช่วงที่อพยพออกมา ต้องไปพักอยู่กับญาติและศูนย์พักพิง ทำให้ใช้ชีวิตค่อนข้างลำบาก โดยเฉพาะเรื่องการทำงานและรายได้ เมื่อทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่เริ่มอนุญาตให้บางพื้นที่สามารถกลับเข้าไปได้ จึงรีบขนข้าวของที่จำเป็นและเดินทางกลับทันที เพื่อไปตรวจสอบสภาพบ้านเรือนและทรัพย์สินว่าได้รับความเสียหายหรือไม่

“ดีใจมากที่ได้กลับบ้าน ถึงจะยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็อยากกลับไปดูบ้าน ดูว่าพังเสียหายแค่ไหน ของหายไหม และจะได้เตรียมซ่อมแซม ถ้าเกิดมีคำสั่งให้อพยพอีกก็พร้อมทำตาม เพราะความปลอดภัยสำคัญที่สุด” พี่จ๋อยกล่าว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงตั้งจุดตรวจและลาดตระเวนตามเส้นทางสำคัญ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่เดินทางกลับเข้าพื้นที่ ใช้ความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่เสี่ยงหรือจุดที่ยังไม่ได้รับการยืนยันความปลอดภัย รวมถึงขอความร่วมมือให้ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากมีเหตุจำเป็นหรือสถานการณ์เปลี่ยนแปลง จะมีการแจ้งเตือนและดำเนินการทันที

ทั้งนี้ แม้หลายครอบครัวจะเริ่มได้กลับสู่บ้านของตนเอง แต่ภาพของถนนที่เต็มไปด้วยรถขนสัมภาระ ยังสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากเหตุความไม่สงบที่ผ่านมา และความหวังของประชาชนที่ต้องการกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในผืนแผ่นดินของตนอีกครั้ง