สนามข่าว 7 สี - ข่าวฉาวในวงการสีกากียังไม่จบ คดีต่อไปของ "บิ๊กโจ๊ก" คือ เรื่องติดสินบนเจ้าพนักงาน ป.ป.ช. ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี และเจ้าตัวก็พยายามจะชิงพบพนักงานสอบสวนไปตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว เมื่อวานก็ไปเข้าพบอีกเพื่อเอาหลักฐานไปให้เพิ่ม
ตอนแรกเข้าใจว่า วันนี้จะมีพนักงาน ป.ป.ช. ที่ถูกเรียกสอบเป็นพยานเข้าให้การกับตำรวจ บก.ปปป. คดีที่มีการแจ้งความเอาผิดกับ "บิ๊กโจ๊ก" แต่รออยู่พักใหญ่ก็ไม่เจอ กลับได้เจอ "บิ๊กโจ๊ก" ที่มาพร้อมทนายความ พูดถึงคดีล่าสุดที่เกิดขึ้นกับตัวเองแบบไม่ระบุชื่อว่า คือลูกน้องคนไหน แต่เดาได้ไม่ยาก ยอมรับว่าเสียใจ แต่ไม่โกรธ และส่วนตัวก็คิดว่าไม่ควรทำแบบนี้ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ที่แจ้งความตนเอง มีดีลลับอะไรหรือไม่
ส่วนคนที่ถูกพาดพิงอย่าง นายเอกวิทย์ กรรมการ ป.ป.ช. ก็ส่งทนายความมาแจ้งความดำเนินคดีกับ "พันตำรวจเอก ภาคภูมิ พิศมัย" ยืนยันว่า ที่ไปแจ้งความกล่าวหาตนเองนั้น ไม่จริง และทนายความของ นายเอกวิทย์ ก็มีความเห็นเหมือน "บิ๊กโจ๊ก" ด้วย ว่าการที่แจ้งความแบบนี้ ตัวเองจะเสี่ยงถูกดำเนินคดีแบบทั้งขึ้นทั้งล่อง
ขณะที่สื่อฯ ก็สอบถามเรื่องนี้ไปยัง "พันตำรวจเอก ภาคภูมิ" เจ้าตัวบอกว่า ก็พร้อมจะเล่าแบบเปิดใจให้ฟังทั้งหมด แต่ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงเรื่องนี้ก่อน ขณะเดียวกันก็รับว่า จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับ "บิ๊กโจ๊ก" เลย
เรื่องซับซ้อนไปอีก เมื่อช่วงเย็นวานนี้ นายสุรสิทธิ์ อายุ 55 ปี อดีตคนสวนของนายเอกวิทย์ และหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาร่วมกับ "บิ๊กโจ๊ก" ก็ได้เข้าพบตำรวจ สน.บุปผาราม อ้างว่าถูกตำรวจสืบสวนภาค 8 เข้าตรวจค้นบ้านในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนจะบังคับพาขึ้นรถ ยึดโทรศัพท์มือถือ และถูกนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.ท่าฉาง ก่อนจะถูกบังคับให้เขียนข้อความตามที่ตำรวจบอก มิฉะนั้นจะไม่ได้กลับบ้าน
เบื้องต้น นายสุรสิทธิ์ ได้ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน และเตรียมแจ้งความตำรวจที่เกี่ยวข้องที่ สภ.ท่าฉาง ต่อ พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยรู้จัก "บิ๊กโจ๊ก" เป็นแค่คนสวนของนายเอกวิทย์ และปัจจุบันไม่ได้ทำงานกับ นายเอกวิทย์ มา 2 ปีแล้ว
