สนามข่าว 7 สี - จังหวัดสุรินทร์ ปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ส่งผู้อพยพกลับบ้าน แต่เน้นย้ำหากพบวัตถุต้องสงสัยต้องรีบแจ้ง และห้ามจุดพลุหรือประทัดส่งท้ายปี
เป็นภาพขณะที่ นายจำเริญ แหวนเพ็ชร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ขึ้นไปส่งผู้อพยพขึ้นรถปรับอากาศเพื่อไปส่งยังภูมิลำเนา หลังปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ พร้อมเน้นย้ำไม่ให้แตะต้องวัตถุต้องสงสัย แต่ให้แจ้งผู้นำชุมชนเพื่อประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำเรื่องห้ามจุดพลุและประทัดช่วงปีใหม่ เพราะอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้
ซึ่งเมื่อวานนี้ มีผู้อพยพเดินทางกลับบ้านจำนวน 1,500 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 90 ของผู้อพยพทั้งหมด เหลือเพียงผู้ป่วยติดเตียงบางส่วนที่ต้องรอการลำเลียงส่งอย่างระมัดระวัง
ส่วนผู้อพยพในจังหวัดสุรินทร์ที่ได้เดินทางกลับถึงบ้านแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ค่อยมั่นใจในสถานการณ์ แต่หลายคนก็อาศัยช่วงเวลานี้ที่ตรงกับช่วงเทศกาลปีใหม่ ร่วมฉลองกับญาติ และเพื่อน ที่บางคนก็เดินทางกลับมาจากกรุงเทพมหานคร
อย่างชาวบ้านกลุ่มนี้ได้กลับบ้านในพื้นที่ บ้านกะเพอโร ตำบลตาวัง อำเภอบัวเชด ได้ร่วมกันหว่านแหจับปลามาประกอบอาหารกินกัน เป็นกิจกรรมคลายความเครียดหลังจากผ่านเรื่องราวการสู้รบของทหารไทย-กัมพูชา บริเวณเขตชายแดน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น และยังแสดงถึงความรักสามัคคีกันในหมู่คณะอีกด้วย แม้จะยังไม่เชื่อใจเขมรว่าจะหยุดยิงตามที่ลงนาม และรอลุ้นว่าหากครบ 72 ชั่วโมงแล้ว จะเป็นอย่างไรต่อไป
ส่วนบรรยากาศศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ที่มีผู้อพยพจากจังหวัดสระแก้วมาพักอาศัยอยู่ และเมื่อวานได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ ซึ่งทุกคนต่างช่วยกันขนของขึ้นรถ และเต็มไปด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส หลังทราบว่าเจ้าหน้าที่ให้เดินทางกลับบ้านได้
นางบัวลอง ศรีบุญ ชาวอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่จะได้กลับบ้าน ตลอดระยะเวลา 20 วันที่ผ่านมา ขอบคุณผู้นำท้องถิ่น และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่เข้ามาดูแลเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องอาหารการกิน และด้านสุขภาพ