“สีหศักดิ์” รับข้อตกลงหยุดยิง 72 ชั่วโมงยังเปราะบาง ขอเลี่ยงเหตุการณ์-คำพูดยั่วยุและเข้าใจผิด ชี้จะบั่นทอนสถานการณ์ วอนความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน มุ่งสู่สันติภาพยั่งยืน
วันนี้ (30ธ.ค.68) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลัง การประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างจีน กัมพูชา และไทย มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ผลการหารือเป็นการพูดคุยการหยุดยิงที่ยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นจะดูว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาจะเดินหน้าอย่างไร โดยระยะเวลาของการหยุดยิง ขณะนี้ยังมีความเปราะบางอยู่ จึงต้องทำให้เกิดความยั่งยืน ฉะนั้นต้องหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะทำให้เป็นการยั่วยุและเข้าใจผิด ซึ่งจะบั่นทอนการหยุดยิง โดยการยั่วยุก็คือการปล่อยโดรน ซึ่งจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งถ้อยแถลงต่าง ๆ ต้องมีความระมัดระวัง เช่นถ้อยแถลงระดับผู้นำ อย่างนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาพูดว่าการหยุดยิงไม่ได้หมายความว่ากัมพูชาแพ้ ซึ่งการพูดแบบนี้จะทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้
นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าหากถามมาแบบนี้ ก็ต้องถามกลับว่าใครที่เป็นฝ่ายขอหยุดยิง แต่ถ้าให้ดีตนคิดว่าควรก้าวข้ามผ่านคำถามนี้ไปได้แล้ว มาทำให้การหยุดนั้นมีความยั่งยืน สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน
ส่วนกรณีที่ทหารเหยียบทุ่นระเบิด ในพื้นที่เขาสัตตะโสม อ.กันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษนั้น นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่าหรือทุนระเบิดใหม่ ซึ่งหนึ่งในประเด็นที่มีการพูดคุยในการประชุม GBC ต้องมีฮอตไลน์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อไม่เกิดความเข้าใจผิด และอีกประเด็นฝ่ายกัมพูชามีความพยายามที่จะเร่งรัดประชุมคณะกรรมาธิการการเขตแดนร่วม หรือ JBC เรื่องการปักปันเขตแดน ซึ่งจะต้องดู ผลของการประชุม GBC เพราะยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของการประชุมคณะรัฐมนตรี จากนั้นต้องดูว่าในช่วงรัฐบาลรักษาการ จะต้องขออนุมัติจากรัฐบาลนี้ และจะมีผลผูกพันไปยังรัฐบาลใหม่ในแง่ของข้อกฎหมาย ว่าการประชุม JBC จะประชุมได้เมื่อไหร่ ก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว ไม่ใช่จะสามารถทำได้ในทันที ย้ำว่าเรื่องนี้ไทยไม่ได้ประวิงเวลาแต่มีขั้นตอนดำเนินการ
ขณะที่ความชัดเจนของการปล่อยตัว 18 ทหารกัมพูชา จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ตามที่ทราบกัน คือจะมีการปล่อยตัว หลังหยุดยิง 72 ชั่วโมง ฉะนั้นสิ่งที่อยากย้ำ เราอยากเดินหน้าการหยุดยิงและหากเคารพการหยุดยิง สิ่งที่พูดกันไว้ต้องรักษาคำพูด แต่ขณะนี้มีความเปราะบางอยู่ควรหลีกเลี่ยงการกระทำหรือคำพูดใด ๆ ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด
ส่วนในทางการทูตไทยกับกัมพูชายังสามารถคุยกันได้ใช่หรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า พูดกันอยู่แล้ว และตอนนี้ในทางการทูตก็มีการพูดคุยกันทุกช่องทาง เพราะหากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นต้องพูดคุยกัน เช่นเดียวกับฝ่ายทหารก็มีการพูดคุยกัน ฉะนั้นเมื่อข้อตกลงหยุดยิงมีความยั่งยืน และเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ก็ต้องมาดูว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
ขณะที่ฉากทัศน์หลังการหยุดยิง 72 ชั่วโมงนั้นจะเป็นอย่างไร นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ภายใน 72 ชั่วโมงหากไม่มีเหตุการณ์อะไร จะเดินหน้าในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ คือ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความยั่วยุบริเวณแนวชายแดน และที่สำคัญคือการเก็บผู้ทุ่นระเบิด เพราะการประชุม JBC จะเกิดขึ้นได้พื้นที่ต้องปลอดภัยเพราะต้องสำรวจหลักเขตแดน และการเก็บทุ่นระเบิดถือเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี
ขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชายังถือว่าเปราะบางใช่หรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การหยุดยิงต้องยอมรับว่าเปราะบาง ต้องมีความพยายามในการยึดมั่นข้อตกลง เพื่อทำให้การหยุดยิงมีความยั่งยืน และหลีกเลี่ยงเหตุการณ์การกระทำที่จะบั่นทอนบรรยากาศที่ได้สร้างขึ้นในตอนนี้
ส่วนที่สมเด็จฮุน เซน ประธานสมาชิกวุฒิสภากัมพูชา ไม่ยอมรับเขตแดนที่ไทยยึดได้ในช่วงปะทะ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า บริบทเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เมื่อมีการประชุม JBC จะต้องพิจารณาสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะอย่างที่ตนได้บอกมันมีขั้นตอนอยู่แล้ว และก็คงไปถึงรัฐบาลใหม่ที่จะประชุมกันได้ เนื่องจากไม่รู้ท่าทีของรัฐบาลใหม่ว่าจะมีการทบทวน MOU43 หรือไม่ ซึ่งยังไม่มีข้อยุติในจุดนี้
ส่วนจะให้ความมั่นใจกับประชาชนในพื้นที่ พื้นที่บริเวณใกล้เคียงประสาทตาควายจังหวัดสุรินทร์ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เรามีการหยุดยิง ซึ่งการหยุดยิงเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ความมั่นคงบริเวณชายแดน จึงอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายเคารพการหยุดยิง เพราะฝ่ายกัมพูชาก็สูญเสียพอสมควร และประชาชนฝั่งกัมพูชาก็อยากกลับเข้าสู่พื้นที่โดยเร็ว ฉะนั้นเป็นผลประโยชน์ร่วมกันที่จะทำให้การหยุดยิงยั่งยืนยั่งยืนและถาวร ส่วนประเด็นปัญหาอื่นๆก็พูดคุยกันได้ในฐานะเพื่อน