ประเด็นเด็ด 7 สี - ชายแดน 4 จังหวัดอีสานใต้ ชาวบ้านเริ่มทยอยกลับบ้านแล้ว แต่ก็พร้อมอพยพหากเกิดเหตุการรุนแรง เพราะทุกคนไม่ไว้ใจกัมพูชา
ที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ หลังเที่ยงวันวันนี้ พบว่าเป็นไปอย่างเงียบเหงา แม้จะมีร้านค้าบางส่วนที่เปิดค้าขาย ประชาชนต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่ที่บ้านของตนเอง และพร้อมอพยพได้ทุกเมื่อ ซึ่งในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ยังไม่พบการปะทะเกิดขึ้นในพื้นที่
ชาวบ้านบอกว่า ช่วงช่วงเทศกาลปีใหม่ คนที่ไปทำงานต่างจังหวัด จะพากันเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิด เพื่อร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัวอย่างคึกคัก แต่ปีนี้กลับพบว่าบรรยากาศตามบ้านเรือนในหมู่บ้านต่าง ๆ เงียบเหงา ไร้ผู้คนครึกครื้นเหมือนทุกปีที่ผ่านมา
ที่จังหวัดศรีสะเกษ บรรยากาศยังคงเงียบสงบ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ ไปเจอตาหลาน ที่อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง กำลังขี่รถซาเล้งกลับเข้าบ้าน ตาบอกว่าที่กลับเพราะมีเพื่อนบ้านที่อพยพกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานนี้ ได้โทรศัพท์มาบอกว่า ปลอดภัยแล้ว จึงขนข้าวของใส่รถซาเล้ง ที่ทำเป็นเหมือนบ้านเคลื่อนที่ ขับจากตัวเมืองศรีสะเกษ กลับหมู่บ้านเสาธงชัย ระยะทางกว่า 89 กิโลเมตร เช่นเดียวกัน ครอบครัวนี้ ที่ปิดร้านขายของ อพยพไปก่อนหน้านี้ ก็ได้กลับบ้าน แต่ก็ยังไม่มั่นใจต่อพฤติกรรมของกัมพูชา
ที่บุรีรัมย์ บรรยากาศการจราจรบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 โชคชัย-เดชอุดม ช่วงอำเภอนางรอง ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มุ่งหน้าสู่หลายจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง แม้จะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ แต่ก็เริ่มมีประชาชนเดินทางกลับเพื่อเฉลิมฉลองเทกาลปีใหม่กับครอบครัวกันอย่างคึกคักแล้ว
จากการสอบถามประชาชน บอกว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้วางแผนว่าจะกลับบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากยังมีการสู้รบกัน แต่พอมีการลงนามหยุดยิง 72 ชั่วโมง และทาง กองทัพภาค 2 ประกาศว่าสถานการณ์สู้รบคลี่คลายลงแล้ว สามารถกลับภูมิลำเนาได้ จึงได้ตัดสินใจเดินทางกลับบาน แต่ส่วนตัวก็ยังไม่มั่นใจว่ากัมพูชาจะหยุดยิงจริงหรือไม่
ขณะที่บรรยากาศในพื้นที่ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี บรรยากาศโดยทั่วไปประชาชนกลับเข้ามาใช้ชีวิตตามปกติ พ่อค้า แม่ค้ากลับมาเปิดร้าน ในพื้นที่ไม่มีเสียงปืน หรือเสียงระเบิดแต่อย่างใด แต่ในช่วงกลางคืนยังคงพบโดรนบินในพื้นที่ช่องอานม้า และช่องบก อย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์ในช่วงกลางคืนยังคงต้องเฝ้าระวังเข้มเช่นเดิม