ห้องข่าวภาคเที่ยง - โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยันยังยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ สื่อกัมพูชากระพือข่าวกล่าวหาทหารไทยปฏิบัติต่อศพทหารกัมพูชาอย่างผิดหลักมนุษยธรรม
พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยืนยันว่า กองกำลังกัมพูชายังยึดมั่นและเคารพข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา อย่างเคร่งครัด โดยมีเพียงการตรึงกำลังทหาร โดยไม่มีการเสริมกำลัง สถานการณ์ชายแดนในภาพรวมค่อนข้างสงบ แต่กองกำลังกัมพูชากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งและระมัดระวัง และชาวกัมพูชาที่อพยพหนีภัยสงครามบริเวณชายแดนทยอยเดินทางกลับบ้านแล้ว ทำให้จำนวนผู้พลัดถิ่นเหลือไม่ถึง 600,000 คน
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ขแมร์ไทม์ส รายงานกล่าวหากองทัพไทยว่า ปฏิบัติต่อทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตในการสู้รบอย่างไร้มนุษยธรรม โดยอ้างว่า ศพทหารกัมพูชา ยศจ่าสิบเอก อายุ 57 ปี ที่เสียชีวิตจากแรงระเบิด ถูกทหารไทยใช้เชือกลากออกมาอย่างไร้มนุษยธรรม เข้าข่ายการละเมิดมาตรา 15 ของอนุสัญญาเจนีวา ซึ่งระบุว่าการเคลื่อนย้ายศพหลังจากสิ้นสุดการสู้รบ ต้องให้เกียรติอย่างไม่เลือกปฏิบัติ พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติมีมาตรการลงโทษ และเตือน สปป.ลาว, เมียนมา และ มาเลเซีย ซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศไทยว่าระวังจะเจอสถานการณ์เดียวกับกัมพูชา
ด้าน นาย อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกำลังจะหมดวาระประธานอาเซียน แถลงว่า การบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา ผ่านการเจรจาในประเทศจีน สอดคล้องกับการลงนามในปฏิญญาร่วมเพื่อสันติภาพที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ บทบาทของจีน, สหรัฐฯ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการสร้างสันติภาพ ช่วยลดการเผชิญหน้าระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ได้นำมาซึ่งผลประโยชน์เพียงแค่ประเทศไทยและกัมพูชาหรืออาเซียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั่วโลกด้วย เพราะสันติภาพเป็นรากฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีของประชากรโลก
