{channel_category} {/channel_category} ข่าวหนุ่มใหญ่ร้องถูกผู้ต้องหาเมายาบ้า ใช้กระเบื้องแทงจนตาบอดคาห้องขัง
หนุ่มใหญ่ร้องถูกผู้ต้องหาเมายาบ้า ใช้กระเบื้องแทงจนตาบอดคาห้องขัง

หนุ่มใหญ่ร้องถูกผู้ต้องหาเมายาบ้า ใช้กระเบื้องแทงจนตาบอดคาห้องขัง

View icon 132
วันที่ 26 พ.ย. 2561 | 17.50 น.
News
แชร์
นายวันชัย เพิ่มชม อายุ 53 ปี ร้องขอความเป็นธรรม หลังสูญเสียดวงตา 1 ข้าง จากกรณีที่ถูกตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม จับกุมตามหมายศาลข้อหาทำร้ายร่างกายภรรยา เมื่อ 14 ปีที่แล้ว ซึ่งแม่ยายได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองจันทบุรี จึงถูกตำรวจติดตามจับกุม เพราะยังไม่หมดอายุความ ก่อนถูกนำตัวคุมขังที่ สภ.เมืองนครปฐม ในช่วงบ่ายของวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจจากจังหวัดจันทบุรีเดินทางมาสอบปากคำ

นายวันชัย เล่าว่า ขณะถูกควบคุมตัวมีผู้ต้องหาในห้องขังร่วมกัน 4-5 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวเมียนมา ก่อนผ่านไปประมาณ 4 ชั่วโมง ตำรวจนครปฐมจับกุมผู้ต้องหาเสพยาเสพติดชาวลาวเข้ามาคุมขังเพิ่มอีก 1 คน ซึ่งผู้ต้องหาชาวลาวคนดังกล่าวมีอาการเหม่อลอยและพูดคนเดียว ก่อนคุ้มคลั่งแงะพื้นกระเบื้องที่แตกภายในห้องขังนำมาแทงเข้าที่เบ้าตาข้างซ้ายของตน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเลือดอาบท่วมตัว จึงตะโกนเรียกให้ตำรวจด้านหน้าห้องขังเข้ามาช่วยเหลือ แต่ขณะนั้นเวลาประมาณ 19.00 น. ไม่มีตำรวจอยู่ประจำหน้าห้องขังแม้แต่นายเดียว ซึ่งนายวันชัยร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดภายในห้องขังนานเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนจะมีตำรวจได้ยินเสียงและเรียกหน่วยกู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เพื่อทำการรักษาตัว แต่ในคืนเกิดเหตุที่โรงพยาบาลไม่มีแพทย์ที่จะสามารถผ่าตัดดวงตาได้ทันที จึงทำให้นายวันชัยต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาล 1 คืนเต็ม โดยไม่มีการย้ายไปโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการรักษา จึงทำให้เสียดวงตาข้างซายบอดมองไม่เห็นมาจนถึงทุกวันนี้

เบื้องต้น ผู้ต้องหาชาวลาวที่เสพยาเสพติดจนเกิดอาการคลุ้มคลั่งถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นที่เรียบร้อย แต่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งนายวันชัยได้ทวงถามไปแล้ว กลับได้รับคำตอบว่าเป็นเหตุสุดวิสัย หากต้องการร้องขอความเป็นธรรมให้ไปร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรมแทน จึงมองว่าตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ปัดความรับผิดชอบ

ล่าสุด นายวันชัยได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนของการดำเนินการ และหากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือยังไม่มีความคืบหน้าจะเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร้องเรียนต่อพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ตรวจสอบการปฎิบัติงานของตำรวจนครปฐม เนื่องจากในวันเกิดเหตุมีห้องขังที่ว่างอยู่หลายห้อง ซึ่งตำรวจสามารถแยกผู้ต้องหาเสพยาเสพติดไปคุมขังไว้อีกห้องได้ แต่กลับนำมาขังรวมจนเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น อีกทั้งฝากพิจารณาเรื่องของกระเบื้องปูพื้นในห้องขัง ที่เกิดการแตกร้าวชำรุดไม่มีการซ่อมแซม  จนทำให้ผู้ต้องหาเสพยาเสพติดนำมาใช้เป็นอาวุธในการก่อเหตุภายในห้องขังได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง