เสี่ยเต็นท์รถหลงคารมสาว แช็ตเรียกที่รัก ชวนลงทุนเทรดเงิน สูญกว่า 1.1 ล้านบาท

เสี่ยเต็นท์รถหลงคารมสาว แช็ตเรียกที่รัก ชวนลงทุนเทรดเงิน สูญกว่า 1.1 ล้านบาท

View icon 514
วันที่ 1 ธ.ค. 2565 | 14.40 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เสี่ยเต็นท์รถหลงคารมสาว แช็ตเรียก “ที่รัก” ชวนลงทุนเทรดเงิน ปันผลกำไร 10% ทุก 20 นาที ยอมรับหลงใหลในคำพูดและความสวย กว่าจะฉุกคิดได้ก็ถูกมิจฉาชีพหลอกให้เติมเงิน สูญไปกว่าล้านบาท

เสี่ยเต็นท์รถสูญเงินล้าน วันนี้ (1 ธ.ค. 65) นายชัยเวช อายุ 55 ปี เสี่ยเจ้าของเต็นท์รถมือสองใน จ. ขอนแก่น เปิดเผยว่า ถูกสาวสวยในโลกออนไลน์ อ้างเป็นนักธุรกิจ ขายเสื้อผ้า ตุ๋นเงินไปกว่า 1.1 ล้านบาท อยากเตือนภัยให้กับประชาชน ร้านค้าและนักธุรกิจ อย่าหลงเชื่อคนที่มาชักชวนลงทุนแพลตฟอร์มเทรดเงินตราต่างประเทศ โดยระบุว่ามีหญิงสาวทักมาขอเพิ่มเพื่อนในเฟซบุ๊ก จึงรับเป็นเพื่อนและแช็ตคุยกัน ฝ่ายหญิงอ้างเป็นนักธุรกิจ ขายเสื้อผ้าแฟชั่นในห้างสรรพสินค้าชื่อดังใน จ.หนองคาย และชวนให้ลงทุนแพลตฟอร์มเทรดเงินตราต่างประเทศ  ซึ่งได้ผลกำไรดี  ลงทุนครั้งละ 200,000-500,000 บาท โดยจะเปิดให้ผู้ร่วมลงทุนเข้าไปซื้อเงินตราต่างประเทศในช่วงเวลา 20.00 น.ของทุกวัน ซื้อได้ครั้งละ 5 นาทีเท่านั้น หากหมดเวลา ก็จะได้รับการปันผลกำไร 2.5% หากซื้อครบ 20 นาทีก็จะได้รับการปันผล 10%

นายชัยเวช  กล่าวว่า ต่อมาฝ่ายหญิงก็ขอเพิ่มเพื่อนในไลน์และชวนคุย เรียกตนว่าที่รัก บอกว่าอยากพาไปพบพ่อแม่ ชวนไปเที่ยว ไปพบพี่ชาย ยอมรับว่าหลงในคำพูดและความสวยของฝ่ายหญิง และร่วมลงทุนแพลตฟอร์มเทรดเงินผ่านทางเว็บไซต์หนึ่ง ตนจึงลองเล่น เติมเงินไป 3,000 บาท วันต่อมาลงเพิ่มเป็น 10,000 บาท ซึ่งก็ได้ผลตอบแทนในการลงทุนแต่ละครั้งคือ 2.5 % เช่น ลงทุน 3,000 บาท ได้ผลตอบแทน 75 บาท ลงทุน 20,000 บาท ได้กำไร 10% จึงยิ่งทำให้ตนเกิดความเชื่อถือมากขึ้น

พอมาวันที่ 3 ฝ่ายหญิงส่งสลิปมาให้ดูว่าโอนเงินลงทุนไป 500,000 บาท แล้วมีโบนัส 50,888 บาท จากนั้นฝ่ายหญิงได้ชวนให้ลงทุนเพิ่ม แต่พบว่าระบบไม่ยอมให้ถอนเงินต้นและกำไร 2.2 แสนบาท แต่ให้เติมเงินเพิ่มให้ครบ 5 แสนบาท เพื่ออัปเกรดเป็นวีไอพี เมื่อเติมเงินเพิ่มระบบแจ้งว่ามีเงินต้นและกำไร 8.7 แสนบาท แต่เมื่อต้องการถอนเงินออกก็ไม่สามารถปลดล็อกบัญชีได้ นอกจากจะเพิ่มเงินลงทุนอีก 30% ทางด้านฝ่ายหญิงก็แช็ตมาบอกว่าเป็นห่วง พยายามหาเงินมาช่วย โดยยืมเงินพี่ชายมา 200,000 บาท เอาแหวนแม่มาขายอีก 50,000 บาท แต่ตนจะต้องเติมเงินอีกกว่าแสนบาท จึงเริ่มฉุกคิดว่าจะถูกมิจฉาชีพหลอกลวง

จากนั้นจึงได้รวบรวมหลักฐาน เข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 (บก.สอท.3) จ.ขอนแก่น  เพื่อให้มีการสืบสวนจับกุม ขบวนการหลอกลวงต้มตุ๋น ให้ลงทุนเทรดเงินสกุลต่างประเทศ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เชื่อว่า หญิงสาวอาจเป็นหนึ่งในนกต่อ ทำหน้าที่หาลูกค้ามาร่วมลงทุนและหลอกเอาเงินไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง