เช้าข่าว 7 สี - ผู้บัญชาการทหารเรือ ตั้ง คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง แล้ว โดยนายกรัฐมนตรียืนยัน จะต้องหาผู้สูญหายที่เหลือให้พบ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเสียใจกับกองทัพเรือและครอบครัว หลังพบร่างผู้เสียชีวิตกรณี เรือหลวงสุโขทัยล่ม ยืนยันหลังจากนี้จะพยายามค้นหาผู้สูญหาย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องหาให้พบ ขอทุกคนไม่ต้องกังวล การสืบสวนสอบสวนต้องใช้เวลา ซึ่งมีขั้นตอน มีระเบียบ มีกฎหมายชัดเจน โดยตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ตนไม่เคยนอนตาหลับสักวัน
ด้านโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางแล้ว ซึ่งประกอบด้วยคณะอนุกรรมการจำนวน 2 คณะ คือ คณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุ ทั้งด้านความพร้อมของเรือและการปฏิบัติงานของเรือ และคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงในการดำเนินการภายหลังจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบการดำเนินการในขั้นตอนของการสละเรือใหญ่ การค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลภายหลังประสบเหตุ ว่าเป็นไปตามหลักการและแนวทางการปฏิบัติที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ คณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ก็ได้เร่ง ดำเนินการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป
ส่วนปฏิบัติการค้นหาตลอดทั้งวันนี้วานนี้ ในช่วงเวลา 11.00 น. เรือหลวงนเรศวรพบผู้เสียชีวิต 1 ราย อยู่ห่างจากเกาะไข่ประมาณ 4.5 ไมล์ทะเล หรือ 8.1 กิโลเมตร จึงนำร่างส่งไปยังมูลนิธิสว่างราษฎ์ศรัทธาธรรมสถาน เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ว่าใช่กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหรือไม่
โดยแผนลาดตระเวนในคืนนี้ที่ผ่านมายังคงใช้เรือใหญ่ 4 ลำ ได้แก่ เรือหลวงตากสิน, เรือหลวงนเรศวร, เรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงนราธิวาส รวมถึงเรือ ต.113, เรือ ต.270 และเรือ ต.114 พร้องทั้งอากาศยานของกองทัพเรืออีก 2 เครื่องลาดตระเวณ เน้นในพื้นที่ตอนล่างของอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และตอนบนของอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร
ขณะที่หมู่เรือช่วยเหลือที่ 2 ที่คาดว่าจะเริ่มปฏิบัติภารกิจได้ในวันนี้ โดยมีเรือหลวงบางระจันและเรือหลวงราวี ที่จะนำนักประดาน้ำไปสำรวจและช่วยเหลือ ตลอดจนพื้นที่ชายฝั่งทะเลและพื้นที่ใกล้ฝั่งของ ศรชล. และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด ยังคงช่วยปูพรมค้นหาในพื้นที่บางสะพาน-บ้านดอนจังหวัด สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวถึงประเด็นเรื่อง "พลุแฟร์" ที่มีข้อมูลว่าพบว่าถูกจุดในคืนวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ระบุว่า แฟร์ ถือเป็นสิ่งหนึ่งในการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือและถูกบรรจุอยู่ในแพช่วยชีวิต จึงยืนยันได้ว่าแฟร์ที่ถูกยิงจะต้องเกิดจากสิ่งมีชีวิตที่เป็นคนยิงขึ้นมา ซึ่งคนที่พบ คือ ผู้บังคับการเรือของเรือหลวงนราธิวาส เห็นแฟร์ถูกยิงขึ้นและมีแสงสว่างเป็นเวลานาน มีทิศทางเลยเกาะไข่และไปทางเกาะจระเข้ จึงได้แจ้งมายังศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือของกองทัพเรือ และทัพเรือภาคที่ 1 โดยมีทีมได้เดินเท้าปูพรมเข้าไปดูตามเกาะแล้ว แต่ยังไม่พบเคสสีเขียวที่ยังคงมีความหวังว่าจะพบกำลังพลผู้รอดชีวิต และยังไม่เห็นซากของแฟร์
สำหรับผลพิสูจน์เอกลักษณ์กำลังพลที่เสียชีวิต ทั้ง 11 นาย ผลออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว 8 นาย ประกอบด้วย จ่าเอกบุญเลิศ ทองทิพย์, จ่าเอกชูชัย เชิดชิด, จ่าโทธวัชชัย สาพิราช, จ่าตรีสถาพร สมเหนือ, จ่าตรีนพณัฐ คำวงค์, จ่าตรีศุภกิจ ทิวาลัย, พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี, พลทหาร จำลอง แสนแก