โจรหลอกโอนเงินยังอาละวาด สองผัวเมียร้านข้าวต้มหมดตัวกว่า 6 แสนบาท

โจรหลอกโอนเงินยังอาละวาด สองผัวเมียร้านข้าวต้มหมดตัวกว่า 6 แสนบาท

View icon 511
วันที่ 13 ม.ค. 2566 | 09.35 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
โจรหลอกโอนเงินยังอาละวาด สองผัวเมียร้านข้าวต้มหมดตัวกว่า 6 แสนบาท อ้างเป็น จนท.สรรพากร ขอตรวจสอบบัญชี หลงเชื่อเพราะที่บ้านเคยโทรมาแกล้ง

วานนี้(12 ม.ค.2566) เมื่อเวลา 17.30 น. น.ส.สุนิสา แนวถาวร อายุ 29 ปี ชาว จ.มหาสารคาม แม่ค้าขายข้าวต้มข้างทางที่ถนนเลี่ยงเมือง-ปากเกร็ด ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่าเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา ถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหาแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร ขอตรวจสอบบัญชีเงินฝาก ก่อนจะหลอกให้กดรับลิงก์ อ้างว่าเป็นแบบฟอร์มของกรมสรรพากร ตอนนั้นหลงเชื่อกดลิงก์ดังกล่าว จนเงินเก็บในบัญชีที่สะสมมาทั้งชีวิตจำนวนกว่า 6 แสนบาท ถูกมิจฉาชีพทำธุรกรรมโอนเงินไปยังปลายทางจนเกลี้ยงบัญชี เหลือเพียงเศษสตางค์ 0.65 บาท โดยมิจฉาชีพหลอกโอนเงินไปเข้าบัญชีปลายทางธนาคารยูโอบี ชื่อบัญชี น.ส.เบญจรงค์ จึงแจ้งอายัดกับธนาคารที่เปิดบัญชีไว้ พร้อมกับนำหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ บช.สอท.เมืองทองธานี แต่ตอนนี้ผ่านมานานกว่า 1 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า และไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางธนาคารที่เปิดบัญชีไว้

น.ส.สุนิสา กล่าวอีกว่า สาเหตุที่หลงเชื่อ เพราะก่อนหน้านี้ บ้านที่ต่างจังหวัดโทรมาหยอก ว่ามีเอกสารจากกรมสรรพากรมาถึงก่อนแล้ว ทำให้เมื่อมิจฉาชีพโทรมาหลอกแล้วอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร จึงหลงเชื่อทำตามที่มิจฉาชีพบอกให้โหลดแอปพลิเคชันของกรมสรรพากร เมื่อโหลดเสร็จ โทรศัพท์ค้างเป็นรูปนาฬิกานานเกือบครึ่งชั่วโมง หน้าจอไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ไม่สามารถเปิดปิดเครื่องได้ กระทั่งมีข้อความส่งเข้ามาว่า ได้โอนเงินจำนวน 643,882 บาทจากบัญชีไปแล้ว 
   
ขณะเดียวกัน แม่ค้าร้านสข้าวต้ม ยังเปิดใจอีกว่า หลังเกิดเหตุ ทั้งตัวเองและสามีเครียดหนัก เพราะเงินดังกล่าวเก็บมาทั้งชีวิต ธนาคารต้นทางก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ อ้างว่าเป็นธุรกรรมที่ทำผ่านแอปฯ ไม่ผ่านธนาคารโดยตรง จึงสงสัยว่าบัญชีเงินฝากที่ตั้งวงเงินยอดโอนไม่เกินหมื่นต่อวัน เหตุใดจึงถูกโดนผ่านแอปฯ ได้ถึง 6 แสนบาท ยอมรับว่า สามีเกิดความท้อแท้ในชีวิตจนเกือบคิดสั้น แต่บอกสามีให้คิดถึงลูก 2 คน 

ทั้งนี้ ผู้เสียหาย ฝากถึงธนาคาร ให้ช่วยหามาตรการตรวจสอบการโอนเงินจำนวนมากอย่างงผิดปกติ และอยากให้ตำรวจเร่งติดตามคดี อย่าให้ซ้ำรอยเหมือนคดีของน้อง ม.3 ที่ถูกมิจฉาชีพหลอกจนฆ่าตัวตาย เชื่อว่าหากเจ้าหน้าที่เอาจริง ก็สามารถติดตามคนร้ายได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง