แม่-ยาย ช็อก! ไฟไหม้บ้านทั้งหลัง ซ้ำร้ายหลายชายวัย 32 ป่วยติดเตียงถูกย่างสด ตำรวจคาดไฟฟ้าลัดวงจร ขณะที่ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย ทำพิธีเผาทันทีตามความเชื่อ
วันนี้ (15 ม.ค.66) ร.ต.อ.สุเมธ ศรีหาวงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านกลาง อ.เมืองนครพนม รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้าน ในพื้นที่หมู่ 11 ต.ดงขวาง อ.เมืองนครพนม มีผู้เสียชีวิตในบ้าน จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีสัตตนครพนม เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.ดงขวาง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูง ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านใกล้ป่าสวนยาง สภาพไฟไหม้วอดเสียหายทั้งหลัง และยังมีไฟลุกไหม้บางส่วน เจ้าหน้าที่จึงระดมรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำ จนสามารถควบคุมเพลิงให้สงบได้ จากนั้นจึงเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต ถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก อยู่ในซากกองเพลิง ทราบชื่อภายหลังคือ นายวงสกร อายุ 32 ปี เป็นหลานชายเจ้าของบ้าน ป่วยติดเตียง ขาอ่อนแรง เพราะประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยมียายอายุ 72 ปี เป็นผู้ดูแล เนื่องจากพ่อแม่ไปทำงานรับจ้าง ส่วนแม่ผู้เสียชีวิต คือ นางสุจินดา อายุ 52 ปี
ภายหลังเกิดเหตุ ยายและแม่ผู้ตายได้เดินทางมาดูสภาพบ้าน และดูสภาพศพ ด้วยความหดหู่ใจ แทบช็อก เพราะไฟไหม้บ้านทั้งหลัง และยังเผาร่างหลานชาย ย่างสดเสียชีวิตคาบ้าน
สอบถาม ยายผู้ตาย เจ้าของบ้าน เล่าว่า ปกติตนจะอยู่ดูแลหลานชายที่เลี้ยงดูมาแต่เด็ก เนื่องจากแม่ผู้ตายแยกทางกันกับสามี และต้องไปทำงานรับจ้าง กระทั่งโตมา หลานชายมีพฤติกรรมดื่มเหล้า และขับรถจักรยานยนต์ซิ่ง จนเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ล่าสุดเมื่อ 4 -5 เดือนที่ผ่านมาได้รับบาดเจ็บ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม และกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยช่วงกลางวันจะปล่อยให้นอนอยู่บ้านคนเดียว ส่วนยายจะออกไปทำงานรับจ้างนวดแผนโบราณ นำเงินมาดูแลหลานชาย และเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ช่วงที่เกิดเหตุ ตนออกไปทำงานปกติ กระทั่งมีคนแจ้งว่ามีไฟไหม้บ้าน เมื่อรีบกลับมาดูสภาพบ้านถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง เพราะไม่มีเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเหตุได้ทัน กว่าจะมีคนพบเห็น บ้านก็ถูกไฟไหม้ทั้งหลัง ซ้ำร้ายหลานชายที่อยู่ในบ้านยังถูกไฟคลอกเสียชีวิตคาบ้าน ทั้งนี้ 2 -3 วันก่อนฝันเป็นลางบอกเหตุ ฝันว่าหลานชายแต่งตัวดีผิดปกติ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุสลดแบบนี้
ล่าสุดจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ คาดว่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร โดยจะมีการตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเกิดจากระบบสายไฟฟ้าภายในบ้านที่ชำรุดเสียหาย หรือมาจากผู้ตายมีการชาร์ทโทรศัพท์มือถือไว้ และเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ลุกไหม้บ้าน ทำให้ผู้ตายไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองหนีออกมาได้
ขณะเดียวกันทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต โดยหลังจากทางตำรวจ และแพทย์ชันสูตรเก็บหลักฐาน ญาติได้นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป มาสวดบังสุกุล ตามประเพณี พร้อมทำพิธีฌาปนกิจศพทันที ตามประเพณีความเชื่อ หากมีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือเสียชีวิตผิดธรรมชาติ หรือชาวบ้านเรียกว่าตายโหง จะมีการทำพิธีฌาปนกิจศพเผาทันที ไม่มีการตั้งบำเพ็ญกุศล
