สู้คดีมา 2 ปี! อดีตเซลล์ขายรถ ร้องสภาทนายฯ ช่วยเหลือหาผู้กระทำผิดตัวจริง หลังถูกโชว์รูมปลอมเอกสารเลี่ยงภาษี รับผิดแทนบริษัท
วันนี้ (10 ก.พ.66) ที่สภาทนายในพระบรมราชูปถัมป์ ถ.พหลโยธิน นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายสงคราม สกุลพราหมณ์ อุปนายก ฝ่ายบริหาร นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความ นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรรมการประชาสัมพันธ์ และรองเลขาธิการ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทาง กฎหมาย และนายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ ร่วมแถลงกรณีเซลล์ขายรถยนต์หรู ขอความช่วยเหลือทางกฎหมายกับสภาทนายความ เนื่องจากโดนปลอมแปลงเอกสารจนถูกจับดำเนินคดีอาญา ข้อหาหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีสรรพากร
นายวิเชียร กล่าวว่า ผู้เสียหายเคยทำงานที่โชว์รูมขายรถยนต์กับบริษัทนำเข้ารถยนต์แห่งหนึ่ง โดยเริ่มทำงานตั้งแต่ปี 2552 ในขณะที่ผู้เสียหายเข้าทำงานในตำแหน่งเซลล์ขายรถกับบริษัทดังกล่าว ได้มอบสำเนาสำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, วุฒิการศึกษา โดยเซ็นสำเนาถูกต้องไว้ด้านล่างของเอกสารทุกแผ่น ไม่ได้มีการเขียนคาดข้อความไว้กับรูป และในช่วงรับเงินเดือนจากบริษัทต้องมีการถ่ายสำเนาบัตรประชาชนให้ทุกครั้ง ทำงานมาแล้วประมาณ 3 ปี
ต่อมาผู้เสียหายถูกนำเอกสารราชการไปเป็นกรรมการของบริษัทนำเข้ารถหรู และใช้ชื่อผู้เสียหายเซ็นปิดงบที่จะนำไปยื่นภาษีให้สรรพกร ต่อมาสรรพากรมีการตรวจสอบ พบบริษัทที่นำชื่อของผู้เสียหายไปแอบอ้างมีการแจ้งรายได้เท็จ ทำให้รัฐเสียรายได้จากการเก็บภาษี จนกระทั่งกลายเป็นคดีในชั้นศาล จากนั้นวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องผู้เสียหาย เนื่องจากพยานหลักฐานที่โจทก์มาสืบยังไม่มีข้อสงสัยตามสมควรให้ยกฟ้อง
ด้านนายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับทางบริษัท รวมทั้งกรรมการบริษัทคนเก่าที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทและมีหุ้นในบริษัทดังกล่าวมาก่อน ทางสภาทนายฯ จะพาผู้เสียหายไปร้องทุกข์กับตำรวจ เพื่อให้หาตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริง เพราะก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความแล้ว แต่พนักงานสอบสวนกับให้ลงบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐานเท่านั้น ไม่ได้ลงประจำวันเพื่อดำเนินคดี ทางสภาทนายความฯ จะมอบหมายให้ นายสมพร อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เป็นคนพาไป อย่างไรก็ตาม บริษัทที่นำชื่อผู้เสียหายไปใช้จะต้องเป็นผู้ต้องหา ขณะที่กรรมการบริษัทคนเก่าที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทนั้น เมื่อเร็วๆนี้เคยมีข่าวดังว่าขับรถหรูชนบนทางด่วน
ส่วนผู้เสียหาย ระบุว่า ตนสู้คดีนี้มา 2 ปี เครียดมาก ตนโดนฟ้องคนเดียว แต่มูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ตอนแรกจะไม่เอาเรื่อง แต่คนรอบข้างแนะนำ จึงขอใช้สิทธิ์ฟ้องเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตนเองและครอบครัว แม้จะกังวลเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้มีอิทธิพล แต่ก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด