สืบนครบาลรวบ หวาน โกงตัวแม่ ตุ๋นเหยื่อซื้อของออนไลน์กว่า 600 คน ต้องตั้งกลุ่มเตือนภัย เจ้าตัวสารภาพทำมาตั้งแต่ปี 2558 เสียหายร่วม 2 ล้านบาท
สั่งของราคาถูกระวังโดนโกงวานนี้(2 มีนาคม 2566) เวลาประมาณ 19.30 น. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกับ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.นภาพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ได้ที่บริเวณข้างร้านสะดวกซื้อ ถนนประชาพัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ หลังจากที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกคนร้ายชื่อ นภาพร หรือหวาน ก่อเหตุโดยสร้างเฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่าง ๆ หลอกให้โอนเงินค่าสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงขนาดมีการรวมตัวกันกว่าหกร้อยคน ตั้งกลุ่มเฟซบุ๊ก ชื่อ จับคนโกง นภาพร-แสงจันทร์-ปนัดา-ปภัสสร-สุขใจ - napaporn sangjan เพื่อรวมตัวกันแชร์ประสบการณ์ แนะวิธีการเก็บข้อมูลพยานหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีเมื่อถูกก่อเหตุ ตลอดจนหาวิธีการช่องทางเพื่อประสานตำรวจในการล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้เสียหายที่รวมกลุ่มได้มีการประสานให้ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. เพื่อให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าวซึ่งยังหลบหนีก่อเหตุต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 คนร้ายมีความคิดว่าถ้าโกงผู้เสียหายในจำนวนยอดเงินโกงไม่เกิน 2,000 บาท น่าจะไม่ค่อยมีผู้เสียหายติดตามดำเนินคดี มูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท ประวัติอาชญากรรมสะอาด
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าเรียนจนชั้น ม.6 เมื่อช่วงประมาณปี 2558 ขณะนั้นอายุ 18 ปี มีอาชีพขายเสื้อผ้าผู้หญิงมือหนึ่งมือสองทางออนไลน์ รวมทั้งรับเป็นตัวแทนนายหน้าโพสต์ขายเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวทางออนไลน์ ได้เปอร์เซ็นต์ตามยอดที่ขายได้ ซึ่งไม่พอค่าใช้จ่ายส่วนตัว จึงคิดโลภนำประสบการณ์จากการขายของออนไลน์มาหลอกผู้เสียหาย โดยมีความคิดว่าถ้าโกงผู้เสียหายในจำนวนยอดเงินโกงไม่เกิน 2,000 บาท น่าจะไม่ค่อยมีผู้เสียหายติดตามดำเนินคดี จึงได้สร้างบัญชีเฟซบุ๊ก เช่น ชื่อบัญชี “เอส เอ็มเอส ”, “ใครกันนะ พวกสามกลีบ ”, “ Best Toy ”, “ napaporn sangjan ” และชื่ออื่น ๆ เข้าไปโพสต์หลอกขายของในกลุ่มเฟซบุ๊กต่าง ๆ กว่า 600 กลุ่ม อาทิเช่น กลุ่ม “ตลาดนัดสินค้าแม่และเด็กราคาไม่แพง ”, กลุ่ม ซื้อ-ขายสินค้า (เมืองโคราช), กลุ่มกางเต็นท์กัน ณ จุดกางเต็นท์ธรรมชาติ, กลุ่มตลาดนัดเสื้อผ้ามือ2 สุราษฎร์ธานี และกลุ่มอื่น ๆ อีกจำนวนมาก
โดยเฉลี่ยมีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเดือนละประมาณ 20 ราย มีรายได้จากผู้เสียหายที่หลงเชื่อรายละ 500 ถึง 1,500 บาท ที่ผ่านมาก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2558 มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000,000 บาท เงินที่ได้จากการก่อเหตุรับว่านำไปใช้จ่ายในครอบครัว ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้น ตำรวจดำเนินคดี น.ส.นภาพร ในข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา"
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนโปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกง อย่าเห็นแต่สินค้าที่มีราคาที่ถูกกว่าราคามาตรฐานที่ควรจะเป็นตามราคามาตรฐานในท้องตลาด เนื่องจากมิจฉาชีพมักใช้ความโลภ เห็นแก่ผลกำไร ราคาถูกมาเป็นจุดล่อใจให้ประชาชนหลงกล ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม กลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ เสนอขาย หรือชักชวนลงทุนในด้านต่าง ๆ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ "สืบสวนนครบาล IDMB" ได้ตลอด 24 ชม.
