ถอนหมายจับ ส.ว.ดัง อีก 30 วัน ศาลสรุปผล หากไม่พบความผิดจะยุติเรื่อง แต่หากผิดจริงจะตั้ง กก.สอบวินัย
(14 มี.ค.2566) นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกาสั่งตั้งคณะกรรมการสดับตรับฟังข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบปมเพิกถอนหมายจับ "ส.ว.ดัง" และให้รายงานข้อเท็จจริงภายใน 30 วันว่า หลังจากนี้คณะกรรมการจะพิจารณาข้อมูลพยานหลักฐานต่าง ๆ และเอกสารที่หลุดออกมา ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ และขั้นตอนกระบวนการขอหมายจับเป็นอย่างไร กระแสข่าวที่มีการพาดพิงนั้นเป็นความจริงหรือไม่ เพราะข้อเท็จจริงขณะนี้ยังไม่มีใครตาม เพียงต่างฝ่ายต่างพูดขึ้นมา มีหนังสือเอกสารจากตำรวจ แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ยังไม่มีใครทราบหรือทางศาลอาญาอาจมีเหตุผล หรือมีระเบียบภายในบางอย่าง ก็ต้องนำมาพิจารณาประกอบ เพราะสุดท้ายอาจเป็นไปตามระเบียบที่ศาลอาญากำหนดไว้แต่แรก หรือเป็นไปตามกฎหมายก็ได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่ว่าแค่ตำรวจทำหนังสือร้องมาแล้วจะมีเหตุให้ต้องลงโทษทันที
ทั้งนี้หากครบ 30 วัน คณะกรรมการสรุปผลแล้วว่าไม่พบความผิดปกติ กระบวนการถอนหมายจับทุกอย่างเป็นไปโดยชอบแล้ว ก็เพียงยุติเรื่องไป แต่หากพบความผิดปกติ หรือการดำเนินการที่ผิดวินัย ก็จะต้องมีการสั่งตั้งคณะกรรมตรวจสอบวินัยขึ้นมาพิจารณาต่อไปอีกชุดหนึ่ง เพื่อพิจารณาลงโทษ
ส่วนจะมีการเรียกนายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล มาเข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการ และข้อเท็จจริงในส่วนนั้น ๆ ว่าจำเป็นต้องเชิญตัวบุคคลมาให้ข้อมูลหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นนายรังสิมันต์ โรม, ตำรวจ หรือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หากคณะกรรมการเห็นสมควรให้เรียกมาเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง ก็สามารถเรียกมาได้