ถุงเงิน! แฉไปไถไป “ชูวิทย์” บอกเงิน "ซัว" แลกหยุดแฉบริจาคให้ รพ.ทั้งหมด “ทนายตั้ม” จี้ถามเงินสีเทา 50 ล้าน

ถุงเงิน! แฉไปไถไป “ชูวิทย์” บอกเงิน "ซัว" แลกหยุดแฉบริจาคให้ รพ.ทั้งหมด “ทนายตั้ม” จี้ถามเงินสีเทา 50 ล้าน

View icon 298
วันที่ 23 มี.ค. 2566 | 07.27 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คู่เดือด “ทนายตั้ม” โพสต์ภาพถุงเงินเปิดประเด็น แฉไปไถไป! “ชูวิทย์” เห็นถุงเงินจำได้ชัด บอก “เงินสารวัตรซัว” มีตำรวจนอกราชการนำมามอบให้ เพื่อช่วยให้หยุดโจมตี แต่แฉจนถูกออกหมายจับ เงินทั้งหมดนำไปบริจาคให้ รพ. ขณะที่ทนายตั้มจี้ถามถึงงินสีเทา 50 ล้าน

คู่เดือด ทนายตั้ม-ชูวิทย์ โพสต์ชนกันเดือดตั้งแต่คืนวานนี้ (22 มี.ค.66) เริ่มจากทนายตั้ม "ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ" โพสต์ภาพเงินสดก้อนบรรจุถุงกระดาษ ระบุว่า "แฉไป ไถไป" ตามมาด้วยคอมเมนต์ระบุว่า "คนที่คุณเห็นอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด หมดศรัทธา" พร้อมระบุว่าในวันนี้ (23 มี.ค.66 ) เวลา 10.00 น. จะให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานทนายความ sittra law firm และจะฝากคำถามถึง “พี่ชูวิทย์”

ทางด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งในช่วงแรกคล้ายจะรอฟังการแถลงข่าวของทนายตั้ม โดยนัดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในเวลา 12.00 น. ที่โรงแรมเดวิส สุขุมวิท 24 แต่ในช่วงค่ำนายชูวิทย์ได้โพสต์ชี้แจงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงประเด็น แฉไป ไถไป? โดยระบุว่า เงิน 2 ถุง ถุงละ 3 ล้าน ที่ทนายตั้มพูดถึง เห็นแล้วจำได้ชัดเจน เป็นเงินที่นายตำรวจผู้ใหญ่นอกราชการคนหนึ่ง ที่ผมรู้จักมานาน นำมาให้ที่โรงแรมของผม โดยบอกว่าเป็นเงินของ “ซัว” ให้ผมช่วยหยุดโจมตี

ผมบอกไปว่า “ไม่รับเคลียร์” มันไม่สามารถช่วยอะไรได้ ผมยังต้องแฉต่อ แต่นายตำรวจท่านดังกล่าว ยืนยันยัดเยียดให้ผมรับไว้ และสิ่งที่ง่ายที่สุด คือ ผมเก็บเงินไปใช้ส่วนตัว เพราะไม่มีใครทราบ แต่ผมเลือกที่จะนำเงินในถุงแรกจำนวน 3 ล้าน ไปบริจาคให้โรงพยาลธรรมศาสตร์ ในวันที่ 14 ก.พ.66 วันวาเลนไทน์เดือนที่แล้ว และอีกถุงจำนวน 3 ล้านเท่ากัน ไปบริจาคให้โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 15 มี.ค.66 ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ครั้ง มีสื่อมวลชนไปทำข่าวเป็นสักขีพยาน และผมก็ยังแฉเรื่อง “ซัว” อย่างต่อเนื่อง

นายชูวิทย์ ระบุด้วยว่า หลักการของผมชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่ปฏิเสธ แต่เงินที่ยัดมาไม่เคยคิดจะใช้ส่วนตัวแม้แต่สักบาทเดียวหากผมจะเก็บไปใช้เอาไว้แจกอีหนูก็ได้ แต่เงินแค่นี้ไม่มีความหมาย หากมี 50 ล้าน มาให้อย่างที่ทนายตั้มว่าจริง ผมก็นำไปบริจาคอีก จะเรียกผมว่าอะไรก็ได้ นักบุญคนบาป โรบินฮู้ด นักแฉใจบุญ หรือใครจะเอาอย่างผมก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มันรับแล้วเข้ากระเป๋าตัวเองทั้งนั้น ลองถามทนายตั้มดูสิครับ อย่าเรียกผมว่าคนดี หรือมาศรัทธาอะไรผม ผมก็ไม่ใช่ “ฮีโร่” อยู่แล้ว ส่วนใครจะตราหน้าผม ก็ขอรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่า ผมนั้นเป็นโจร เพียงแต่เป็น ”โจรที่เอาเงินบาปไปทำบุญ”

“ยังนึกไม่ออกเลย จะทำให้ดีกว่านี้ได้ยังไง ใครรู้ช่วยบอกที คนที่จะถ่ายรูปถุงเงินนี้ได้ ก็น่าจะต้องเป็นเจ้าของเงิน คนที่ให้รูปทนายตั้มบอกว่ายังไง? เงิน 50 ล้านที่ไหน? ผมจะรอฟัง” นายชูวิทย์ระบุ

641b9e6d796a30.01302796.PNG

ทางด้านทนายตั้ม ได้เข้ามาแสดงความเห็นในโพสต์ของนายชูวิทย์ โดยระบุว่า แหม่ พี่ชูวิทย์ ใจบุญจริงๆ นี่ถ้าผมไม่โพสต์ จะมีคนรู้ไหมว่ารับเงินพวกนี้มา แต่ผมว่ามันคนละยอดกันเลยนะ ทนายตั้มยังได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ใต้โพสต์ภาพถุงเงินด้วยว่า ตอนนี้พี่ชูวิทย์ก็รับแล้วว่ารับเงินสารวัตรซัว ที่แกรับเพราะแกพอจะเดาได้ว่าผมมีอะไรมากกว่านี้ แต่ยอดนี้จะเอาไปบริจาคจริงหรือเปล่าจะได้รู้กัน กล้าทำกล้ารับตอนที่โดนจับหรือเปล่า

641b9e77c19e21.86945361.PNG

ความคืบหน้าของประเด็นแฉไป ไถไป จะเป็นอย่างไร ติดตามในการแถลงข่าวจากคู่เดือดวันนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง