แม่ขอความเป็นธรรม! ลูกชายวัย 16 โดนตำรวจขับรถชนเจ็บ แต่ไม่รับผิดชอบ ซ้ำขู่ฟ้อง ถ้าไปบอกนักข่าว

แม่ขอความเป็นธรรม! ลูกชายวัย 16 โดนตำรวจขับรถชนเจ็บ แต่ไม่รับผิดชอบ ซ้ำขู่ฟ้อง ถ้าไปบอกนักข่าว

View icon 348
วันที่ 19 เม.ย. 2566 | 18.39 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
19 เม.ย. 66 เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก น.ส สโรชา อายุ 37 ปี ชาวจ.นครปฐม ถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 66 เวลาประมาณ 10.30 น. นายพัทธดล อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย ถูกรถกระบะ สีบรอนซ์เงิน ของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สังกัดหนึ่ง ชนบริเวณถนนเลียบคลองทวีวัฒนา 28 ในขณะปฎิบัติหน้าที่ โดยมีเจ้าหน้าทีตำรวจ ยศดาบตำรวจ เป็นผู้ขับ ทำให้ลูกชายได้รับบาดเจ็บ รถได้รับความเสียหาย แต่คนชนไม่ยอมรับผิด ไม่จ่ายค่ารักษาหรือชดใช้ค่าเสียหายใดๆ แถมยังบอกว่าถ้าอยากได้ค่าเสียหายให้ไปฟ้องร้องเอา และยังข่มขู่หากเอาเรื่องไปบอกนักข่าวจะฟ้องเรียกค่าเสียหายในเรื่องของ พ.ร.บ.คอมฯ อีกด้วย จึงเข้าแจ้งความที่ สน.ธรรมศาลา ไว้ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 66 แต่จนถึงขณะนี้คดีไม่มีความคืบหน้า ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงปรึกษาที่บ้าน และออกมาร้องเรียน

โดยนายพัทธดล เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา แม่ได้ใช้ให้ตนออกไปซื้อยาที่ร้านใกล้ๆ บ้าน เนื่องจากน้องคนเล็กไม่สบาย ตนจึงขี่รถจยย.ออกไป ขณะจะขี่รถกลับมาบ้าน ตรงที่เกิดเหตุ ตนเห็นรถกระบะคันดังกล่าวจอดอยู่ริมขอบทางด้านซ้าย ตนจึงขี่รถตรงมาตามปกติ แต่จู่ๆ รถระบะคันดังกล่าวก็หักหัวออกมาเพื่อที่จะกลับรถโดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยวบอก จึงเกิดการชนกันขึ้น พอชนเสร็จตนกระเด็นออกจากรถไปนอนอยู่ที่พื้น จึงรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าข้างทาง แต่คนขับรถกระบะก็ไม่ได้ลงมาดูหรือมาถามอะไรเลย กว่าจะลงมาจากรถกระบะได้ก็ผ่านไปสักพักแล้ว แถมตอนลงมาก็มาด่าว่าตนอีก หาว่าตนขี่รถแบบนี้ได้ยังไง ทำไมแซงขวาแบบนี้ ทำไมไม่แซงซ้าย ถ้าแซงซ้ายไปก็ไม่ชนแล้ว และไม่ได้ถามเลยว่าตนเป็นอะไรมากไหม บาดเจ็บตรงไหนไหม แถมยังย้ำว่าเขาไม่ผิดอีกต่างหาก

ทางด้าน น.ส.สโรชา เผยว่า หลังรู้ว่าลูกโดนรถชน ก็ตกใจมากจึงรีบออกไปดูลูกตรงที่เกิดเหตุ ก็พบว่าลูกยืนคุยกับผู้ชายอยู่ 4-5 คน คิดว่าน่าจะเป็นคนที่ขับรถกระบะและคนที่นั่งอยู่ข้างใน ตนจึงได้เข้าไปพูดคุย ซึ่งตนมารู้ว่าคนที่เป็นคนขับรถกระบะเป็นตำรวจ ก็เพราะว่าเขาบอกว่าเขามาซุ่มจับกุมคนร้ายคดียาเสพติด แถมยังบอกอีกว่าลูกตนยังอายุไม่ถึง ทำไมให้รถลูกออกมาขี่แบบนี้

จากนั้น ตนเห็นว่าคู่กรณีเป็นตำรวจ และไม่ยอมรับผิดใดๆ จึงพาลูกไปแจ้งความที่ สน.ธรรมศาลา ไว้ก่อน และได้เจรจาไกล่เกลี่ยในเรื่องค่าเสียหายแล้ว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ดาบตำรวจนายดังกล่าว ยังบอกตนอีกว่า เขาไม่ผิดถ้าอยากได้ค่าเสียหายให้ไปฟ้องร้องเอาเอง ต่อมา ทางร้อยเวรก็ได้นัดให้เข้าไปเจรจาไกลเกลี่ยกันใหม่อีกรอบ โดยตนได้ขอค่าซ่อมรถมอเตอร์จำนวน 50,000 บาท เพราะรถรุ่นนี้ค่าซ่อมและอะไหล่ค่อนข้างแพง แต่ทางดาบตำรวจ นายดังกล่าว ก็ไม่ยอม แถมยังพูดจาไม่ดีใส่ตนอีกด้วย

ต่อมาเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ตนได้พาลูกชายเข้าไปร้องที่ต้นสังกัดของดาบตำรวจ นายดังกล่าวโดยตรง แต่ก็ได้รับคำตอบที่ไม่น่าเชื่อว่าทางผู้บังคับบัญชาของดาบตำรวจนายดังกล่าว จะพูดออกมาคือ เขาไม่สามารถลงโทษลูกน้องเขาได้ เนื่องจากลูกน้องเขาไม่ได้ทำผิดวินัยตำรวจ ไม่ได้ไปเรียกรับเงินหรือปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ การที่รถชนกันแบบนี้ถือเป็นเรื่องของประชาชนกับประชาชนต้องเคลียร์กันเอง ซึ่งตนก็งงมากว่า ลูกน้องของคุณอยู่ในกำลังปฏิบัติหน้าที่ไม่ใช่เหรอ กำลังจะจับยาเสพติด แล้วการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถชนประชาชนขณะปฎิบัติหน้าที่แบบนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นประชาชนต้องรับผิดชอบเองเหรอ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ไปติดตามความคืบหน้าที่ สน.ธรรมศาลา แต่ได้คำตอบว่าใบพิสูจน์หลักฐานยังไม่มา ซึ่งตอนแรกที่คุยกันเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ในการรอใบพิสูจน์หลักฐาน จนตอนนี้เลย 1 เดือนมาแล้ว เรื่องกลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดต นกลัวว่าเรื่องจะเงียบหายไปเพราะคู่กรณีเป็นตำรวจ และตอนที่พูดคุยกัน คู่กรณีก็พูดจาไม่ดีใส่เราด้วย เหมือนเขาคิดว่ายังไงเขาก็ไม่ผิดแน่ๆ และหัวหน้าเขาที่ตนเข้าไปร้องทุกข์ก็ยังไม่ช่วยเหลืออะไรตนเลย ตนกับครอบครัวไม่รู้จะไปพึ่งใครเพราะที่บ้านก็ไม่ค่อยมีเงิน มีแฟนที่ทำงานหาเงินเพียงคนเดียว