ไข่ต้มไม่ใช่แค่โภชนาการ “หมอเดว” ชี้เข้าใจคลาดเคลื่อน “พอเพียง” ไม่ใช่ยากจนทนกัดก้อนกินเกลือ

ไข่ต้มไม่ใช่แค่โภชนาการ “หมอเดว” ชี้เข้าใจคลาดเคลื่อน “พอเพียง” ไม่ใช่ยากจนทนกัดก้อนกินเกลือ

View icon 289
วันที่ 24 เม.ย. 2566 | 11.53 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ดรามาไข่ต้ม ไม่ใช่แค่โภชนาการ "หมอเดว" แนะอย่าสร้างประเด็นซ้อนประเด็น “พอเพียง” ไม่ใช่ยากจนทนกัดก้อนกินเกลือ และยังมีประเด็นอ่อนไหวทางจิตใจ โดยเฉพาะคำบ่นอยากตาย อาจเกิดการเลียนแบบ

ไข่ต้มเหยาะน้ำปลา รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นดรามาไข่ต้มผ่านเพจเฟซบุ๊กบันทึกหมอเดว โดยระบุว่า กรณีดรามาไขต้ม ตำราในชั้น ป.5 มีสื่อขอถามความเห็น “หมอเดว” มีประเด็นสำคัญๆ อยู่ 3 เรื่อง ไม่ใช่แค่โภชนาการเท่านั้น แต่มีประเด็นอ่อนไหวทางจิตใจ และประเด็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

ดรามาไข่ต้ม ไข่ต้มเหยาะน้ำปลา ในแบบเรียนชั้นประถม ภาษาพาที หมอเดว ระบุว่า กรณีความเหลื่อมล้ำ ที่มีครอบครัวร่ำรวย สอนลูกไม่เป็น ไม่ซื้อโทรศัพท์ รุ่นใหม่ให้ลูก (ในตำรา) จนเด็กสะท้อน บ่นอยากตาย ซึ่งประเด็นนี้ ตำราเรียนในวัยเรียน ความจริงหากแก้ไขได้อยากให้ตัดประเด็นบ่นอยากตายออกไป แม้อาจจะบอกว่าชีวิตจริงก็อาจจะมีให้พบเห็นได้ แต่นี่คือตำรเรียนมาตรฐาน ชั้น ป.5 ที่กระทรวงรับรองเพื่อใช้ทั่วไป (ความพยายามอยากตาย Suicidal idea จากภาวะซึมเศร้าจะพบในเด็กวัยรุ่น ส่วนใหญ่ ระดับมัธยม)  แต่ในวัยเรียนมักเกิดจากภาวะน้อยใจ พูดประชด เลียนแบบ เด็กบางคนเลียนแบบไปทำจริง

“ฉะนั้น การที่ตำราสะท้อนคำนี้ ออกมาในช่วงวัยแบบนี้ ที่ยังไม่เข้าใจเรื่อง death perception (การรับรู้เรื่องความตาย) ที่ดีพอ อาจเกิดความเข้าใจผิดต่อเด็กกันเองได้ ยังไม่นับกรณีที่ หากช่วยให้เด็กเข้าใจ sense of property (ค่าของเงินและทรัพย์สิน) ผ่านตำราบทนี้จะดีมาก กล่าวคือ โทรศัพท์ที่พ่อแม่ซื้อมาให้ลูกนั้น เป็นของพ่อแม่ ไม่ใช่ของลูก เพียงแต่พ่อแม่ให้ยืมใช้ แต่ทุกวันนี้ผู้ใหญ่ยังเข้าใจคลาดเคลื่อน เหมือนซื้อยกให้ลูกเลย จึงทำให้เด็กเกิดวัตถุนิยมเกิดขึ้นเต็มไปหมด” หมอเดว ระบุ

กรณีไข่ต้มกับภาวะโภชนาการ ที่อาจทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เข้าใจผิด เรื่องสภาวะโภชนาการ หากจะยกตัวอย่างบ้านกำพร้า ส่วนตัวหมอเดว มีความเห็นว่า อย่าสร้างประเด็นซ้อนประเด็น ให้เป็นโภชนาการที่ครบหมู่ สไตล์บ้านๆ ที่สะท้อนเรียบง่ายแต่มีความสุข แบ่งปันกัน ก็พอแล้ว ไม่ควรสร้างประเด็นซ้อนเพิ่ม ให้สับสนว่า กินแบบนี้ก็ได้ในตำรา กินแค่ไข่ต้มน้ำปลา น้ำผัก แล้วก็มีความสุข  โปรดเข้าใจด้วยว่า หากแม้ในสังคมผู้ใหญ่ยังสามารถตีความได้สับสน จะนับประสาอะไรกับเด็กที่เรียนตำรา สู้ทำstory กินครบหมู่ แต่แบ่งปันกันมีความสุข จะดีกว่า

หมอเดว ระบุถึงกรณีความเข้าใจผิด กับการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง ในฐานะที่ทำงานศูนย์คุณธรรม อยากทำความเข้าใจ ปรัชญาพอเพียง ว่า “พอเพียง” มิใช่หมายถึง การสะท้อนให้เห็นความยากจนทนกัดก้อนกินเกลือ อย่างมีความสุข  หรือ หมายถึงการมีน้อยๆ ใช้น้อยๆ หากแต่ปรัชญาพอเพียงนั้น สะท้อนให้ทุกคนทุกชีวิต ต่อให้ร่ำรวย ยากจน จะเป็นเด็กหรือ ผู้ใหญ่ในเมือง ชนบทล้วนต้องมีความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน บนเงื่อนไขความดี และใช้ปัญญา

“ฉะนั้น การดรามาโชว์การกินไข่ต้ม สะท้อนตนเองว่า กำลังใช้ชีวิตอย่างพอเพียงนั้น จึงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ฝากถึงกระทรวงศึกษาธิการ หากตำราลักษณะนี้ออกมา ท่านต้องเตรียมความพร้อมครูให้เล่นบท “กระบวรกร” เพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก ผู้เรียน สะท้อนความรู้สึก สะท้อนความคิดเห็น สะท้อนการแก้ปัญหา เวลาเด็กเผชิญเหตุ หากให้อ่านและเข้าใจเอาเอง ไม่แบ่งกลุ่มเล็ก บนสามคำถามที่หมอตั้งข้อสังเกตุ (รู้สึกอย่างไร คิดเห็นอย่างไร แก้ปัญหาอย่างไร) เท่ากับว่าท่านกำลังสอนและให้เด็กเข้าใจคลาดเคลื่อน ปฏิบัติคลาดเคลื่อน” หมอเดวระบุ

ยิ่งมีคำว่า บ่นอยากตาย อาจก่อให้เกิดการเลียนแบบขึ้นมา จึงขอฝาก สพฐ.เตรียมกระบวนการเรียนการสอนให้มีคุณภาพคู่ขนานกันไปด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง