"ธนกร" ดักคอ อย่าใช้ม็อบกดดัน สว. โหวตนายกรัฐมนตรี บอกเอาใจช่วยก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาล จะได้แสดงฝีมือทำงาน
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม ว่าที่ สสรทสช. ในช่วงบ่ายวันนี้ (22 พ.ค.66) ว่าพรรคจะพูดคุยกับ ว่าที่ สส.ทั้ง 36 คน จะพูดคุยถึงการทำงานและการปรับตัวให้สอดรับเข้ากับสถานการณ์ ระหว่างคนรุ่นใหม่ รุ่นกลาง คนเก่า รวมถึงต้องปรับการสื่อสารโดยนำโซเชียลมาปรับใช้ ทั้งนี้ ระบบการทำงานของพรรคดีอยู่แล้ว แต่อาจต้องมีการปรับบ้าง โดยดูผลที่ออกมาว่ามีจุดอ่อน จุดแข็งตรงไหน และนำมาปรับปรุง
ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องแก้ไข หรือปรับกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่มองว่าการรีแบรนด์ดิงเป็นสิ่งที่ดี และควรมีการพัฒนา เปลี่ยนแปลงเพื่อให้ดีที่สุด จุดไหนต้องปรับก็ต้องปรับ และที่ผ่านมานายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้า รทสช. และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ รทสช. ทุกคนทำหน้าที่ได้ดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อถามย้ำว่าจะต้องคุยเรื่องการบริหารจัดการภายในพรรคหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เราคุยกันได้ ไม่มีปัญหา ส่วนที่นายพีระพันธุ์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ จะยังช่วยงานหรือวางบทบาททางการเมืองจริงๆ นายธนกร กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ และไม่ก้าวล่วง เพราะต้องให้เกียรตินายกรัฐมนตรีและตน รวมทั้งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการะทรวงแรงงาน จึงอยู่ที่นายกรัฐมนตรีคนเดียวว่าจะพิจารณาอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่ สส.บางคน อาจจะไม่อยู่ด้วย นายธนกร กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น เราต้องให้เกียรติหัวหน้าพรรค ที่ทำงานได้ดีแล้วจะเปลี่ยนทำไม ส่วนเลขาฯ พรรค ยังสามารถประสานได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองบรรยากาศจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้อย่างไร นายธนกร กล่าวว่า เราต้องให้เกียรติพรรคอันดับหนึ่งในการจัดตั้งและยังมีเวลาดำเนินการ แต่ฝากว่าอย่าให้ไปถึงขั้นชุมนุมกดดัน สว. เพราะวันนี้เพิ่งเริ่มต้น อย่าเพิ่งเคลื่อนไหว บ้านเมืองจะมีแต่ความขัดแย้ง และมองว่าพรรคก้าวไกล น่าจะทำความเข้าใจกับเครือข่ายของตัวเองในเรื่องนี้ ตามที่ระบุว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ขออย่าไปชุมนุมกดดัน
“วันนี้ตนให้กำลังใจให้ตั้งรัฐบาล เพื่อพิสูจน์ฝีมือในการทำงาน แต่ขณะเดียวกันเป็นห่วงว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำมา 7-8 ปี ประชาชนใช้ชีวิตอย่างสงบ คนทั้งประเทศมีความสุข เศรษฐกิจฟื้นตัว หลายอย่างเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ สร้างความเจริญให้กับประเทศมาก ดังนั้นรัฐบาลใหม่ควรสานต่อ ไม่ควรมีความขัดแย้ง ที่จะทำให้เสียโอกาส
