สนามข่าว 7 สี - ผู้เสียหายคดีที่ถูกหลอกให้ลงทุนบริหารเช่าพื้นที่บน Cloud Storage ดีใจที่ตำรวจช่วยจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ให้ และยอมรับไม่เข้าใจการทำงานของ DSI ที่ดำเนินคดีนี้ล่าช้า ขณะที่ DSI ยืนยันมีการส่งฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นตัวการหลักไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนเงินที่ตามอายัดได้ไม่มาก เพราะถูกนำไปใช้จ่ายส่วนตัว
หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนบริหารเช่าพื้นที่บน Cloud Storage หรือ การระดมทุนเพื่อเปิดให้เช่าพื้นที่เก็บข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ ให้กับบริษัทต่าง ๆ โดยจะได้ค่าเช่าหรือเงินปันผล ที่สุดท้ายเกิดความเสียหายมากกว่า 1,300 ล้านบาท ตัดพ้อเรื่องความคืบหน้าทางคดี โดยยอมรับว่าไม่เข้าใจการทำงานของ DSI ที่ดำเนินคดีล่าช้า และติดตามอายัดทรัพย์คืนมาได้เพียงประมาณ 100 ล้านบาทเท่านั้น
ผู้เสียหายรายนี้ เล่าว่า นับตั้งแต่รู้ตัวว่าถูกแม่ชี อายุ 69 ปี หลอกให้ลงทุน ก็คอยไปทวงถามความคืบหน้าคดีกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI อยู่เรื่อย ๆ เรื่องการออกหมายจับ ซึ่งทาง DSI บอกว่าได้ออกหมายจับแล้ว แต่พอตนตรวจสอบไปในระบบกลับไม่พบ ต่อมาพอทวงถามไปอีก ก็ยืนยันคำเดิมว่าได้ออกหมายจับและส่งให้อัยการดำเนินคดีแล้ว แต่พอนำเรื่องนี้ไปสอบถามกับทางอัยการ ก็ได้รับคำตอบว่า DSI ยังไม่ออกหมายจับ จึงรู้สึกมืดแปดด้าน ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงดำเนินการล่าช้า ทั้ง ๆ ที่หลักฐานมัดตัวแน่นหนา และที่รู้สึกแย่ไปกว่าเดิม คือการติดตามอายัดทรัพย์ที่จนถึงตอนนี้ก็ตามยึดมาได้เพียงกว่า 100 ล้านบาทเท่านั้น
ขณะที่ช่วงสาย ๆ ของวันนี้ กลุ่มผู้เสียหายจะเข้าขอบคุณตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ช่วยจับกุมผู้ต้องหารายนี้ พร้อมจะเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
ทีมสนามข่าวสอบถามข้อเท็จจริงทางคดีกับ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดี DSI ซึ่งก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ รับผิดชอบดูแลคดีมาก่อน อธิบายให้ฟังว่า คดีนี้จริง ๆ ไม่ล่าช้า เพราะมีการจับกุม นายศุภสรร หรือ แม็ก กรรมการบริษัท กับพวก ไปตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว จากนั้นในเดือนมิถุนายน ได้ส่งสำนวนคดี 392 แฟ้ม เอกสารรวมกว่า 159,000 แผ่น ให้อัยการรับไปพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้อง ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งอธิบดี DSI ยังสั่งดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินด้วย ส่วนแม่ชีที่เพิ่งถูกตำรวจจับกุม ยืนยันว่าได้ออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งหลังถูกคุมตัวนำส่งตำรวจ สภ.แม่ทะ จังหวัดลำปาง ฝากขัง DSI ก็จะตามไปอายัดตัวและแจ้งข้อหาตามหมายจับในเรือนจำ ส่วนเรื่องการติดตามอายัดทรัพย์สินได้เพียงกว่า 100 ล้านบาท ยอมรับว่าที่ตามอายัดทรัพย์คืนไม่ได้มาก เพราะผู้ต้องหาไม่ได้นำไปลงทุน หรือซื้อทรัพย์สิน แต่ส่วนใหญ่นำไปใช้จ่ายส่วนตัวจนเกือบหมด แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ยังไม่ลดละความพยายามที่จะตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อนำทรัพย์สินมาเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด และหากผู้เสียหายมีความไม่สบายใจ อยากสอบถามความคืบหน้าคดี ก็พร้อมจะชี้แจง