วันนี้ ลุ้นผลเจรจาเก้าอี้ ปธ.สภาฯ อีกรอบ

เช้าข่าว 7 สี - เรียกว่าต้องลุ้นกันวันต่อวันเลยก็ว่าได้ และวันนี้ก็ต้องลุ้นกันอีกกับข้อสรุปผลการเจรจาเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะตกเป็นของพรรคการเมืองใด ระหว่างก้าวไกล กับ เพื่อไทย หลังจากเมื่อวานนี้ยังตกลงกันไม่ได้
 
วันนี้ ลุ้นผลเจรจาเก้าอี้ ปธ.สภาฯ อีกรอบ
เมื่อวานนี้ มีการประชุมของ 8 พรรคการเมือง ที่จับมือกันจับขั้วตั้งรัฐบาล ไฮไลต์ของการหารือมีอยู่เรื่องเดียว คือ เก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะตกไปอยู่กับพรรคใด ระหว่างก้าวไกล และ เพื่อไทย ก่อนการหารือมีการคาดว่าจะได้ข้อสรุป แต่ผลสุดท้ายก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ โดยทั้งสองพรรคต่างก็สงวนท่าที ไม่มีการพูดออกมาแบบเด็ดขาด ว่าตำแหน่งนี้ต้องเป็นของพรรคการเมืองใด ขอมาเจรจากันต่อในวันนี้อีกครั้ง

กดดัน ชลน่าน อย่าเสียสัตย์ นายกฯ ต้องชื่อ พิธา
ผลการเจรจาออกมาเป็นเช่นนี้ ก็ไม่อยากจะเดาเลยว่าบรรยากาศการหารือกันของทั้ง 8 พรรค จะเคร่งเครียดกันขนาดไหน เพราะว่าก่อนจะเข้าไปเจรจากัน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็พกแรงกดดันจากการที่ถูก "ด้อมส้ม" ใช้คำพูดว่าอย่าเสียสัตย์เพื่อชาติ เหมือนยุค รสช. พร้อมกับสำทับว่า เก้าอี้นายกรัฐมนตรี ต้องเป็นของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เท่านั้น  

การเจรจายังไม่ลงตัว เวลาก็งวดเข้ามาทุกที เพราะในช่วงเย็นวันนี้ จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรก วันถัดไป ก็คือ วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม ก็เป็นการประชุมรัฐสภานัดแรก เพื่อเลือกตำแห่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และ รองประธานสภาฯ อีก 2 ตำแหน่ง ซึ่งใช้วิธีลงคะแนนลับ คาดการณ์กันว่า ทั้ง 3 ตำแหน่งนี้จะใช้เวลาลงคะแนนพร้อมทั้งประกาศผล ประมาณ 6 ชั่วโมง ก็ต้องมาลุ้นกันในวันนี้ และอาจยาวไปจนก่อนถึงเวลาเปิดประชุมรัฐสภา ว่าเราจะทราบว่าตำแหน่งนี้จะตกเป็นของพรรคการเมืองใด  

บิ๊กป้อม ลั่น ขอดูแล พปชร.ตลอดชีวิต
ไปดูความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอื่นกันบ้าง พรรคพลังประชารัฐ ได้จัดปฐมนิเทศ สส. ทั้ง 40 คน วลีเด็ดเป็นของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ที่ประกาศว่า "ไม่ทิ้งพรรค ไม่ลาออก ขออยู่ดูแลพรรคพลังประชารัฐไปตลอดชีวิต"

ปชป. ปฐมนิเทศ 25 สส. 
พรรคประชาธิปัตย์ ก็มีปฐมนิเทศ สส. ทั้ง 25 คน เหมือนกัน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร และในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ พรรคก็จะมีการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งจะเป็นผู้ชี้ขาดถึงการลงคะแนนทั้งตำแหน่งประธานสภาฯ และ นายกรัฐมนตรี ต่อไป