เสพยาไอซ์จนคลั่ง ขับรถเก๋งไฟฟ้าป้ายประมูล ชนดะ รถ ตร. ก็ไม่เว้น ให้การสุดวีน “ไม่พูดละจะทำอะไรก็ทำ”

เสพยาไอซ์จนคลั่ง ขับรถเก๋งไฟฟ้าป้ายประมูล ชนดะ รถ ตร. ก็ไม่เว้น ให้การสุดวีน “ไม่พูดละจะทำอะไรก็ทำ”

View icon 278
วันที่ 7 ก.ค. 2566 | 16.22 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หนุ่มขอนแก่นอายุ 36 ปี เสพยาไอซ์เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ขับรถเก๋งไฟฟ้าป้ายประมูลชนดะ รถยนต์รถจักรยานยนต์รวมทั้งรถสายตรวจตำรวจถูกชนรวม 6 คันได้รับความเสียหาย ก่อนถูกคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
            
วันนี้ (7 ก.ค. 66) ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งจาก 191 ว่ามีเหตุชายคลุ้มคลั่ง ขับรถยนต์ไฟฟ้า ชนรถยนต์ของประชาชน ได้รับความเสียหาย หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ,สืบสวน,จราจร ออกติดตามไล่ลาผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุ ขับรถหลบหนีไปตามถนนศรีจันทร์-หน้าเมือง-หลังเมือง-รอบเมือง-รื่นรมย์ และประชาสโมสร โดยได้ขับรถชนรถยนต์แลรถจักรยานยนต์ ของประชาชนทั่วไป ได้รับความเสียหาย รวมถึงรถยนต์สายตรวจ รวมจำนวน 6 คัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ได้ใช้อุปกรณ์หยุดยานพาหนะวางขวางรถผู้ก่อเหตุ เหยียบจนยางรถรั่ว แต่รถผู้ก่อเหตุก็ยังเคลื่อนต่อไป จนกระทั่งหลบหนีเข้าไปในซอยสุภะภีระ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงได้เข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือนายบวรวงศ์ อายุ 36 ปี ที่ อยู่ในอาการมึนเมาคล้ายเสพสารเสพติด พร้อมตะโกนว่า “จับฉันทำไม ทำไมต้องจับฉันด้วย” ก่อนเจ้าหน้าที่จะพยายามสอบถามผู้ก่อเหตุจนให้การรับสารภาพว่า ได้เสพยาไอซ์มาจนเกิดอาการหลอน จึงได้ควบคุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายสมบูรณ์ อายุ 61 ปี ผู้เสียหาย เจ้าของรถกระบะซึ่งถูกรถของนายบวรวงศ์พุ่งชนได้รับความเสียหายบริเวณบริเวณท้ายรถเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำและดำเนินการตามขั้นตอนพร้อมทั้งมีทะเบียนรถของนายบวรวงติดอยู่ท้ายรถมาด้วยก่อนจะนำส่งมอบให้กับทางตำรวจ

โดยนายสมบูรณ์เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะนั้นตนเองอยู่ ขับรถมาถึงช่วงสี่แยกคุ้มหนองคู ห่างจากจุดที่ควบคุมตัวได้ไม่ไกล ขณะนั้นตนเองชะลอให้รถคันหน้าขับไปจูๆ ท้ายรถก็ถูกชนอย่างแรง รถของตนเองพุ่งไปข้างหน้าเกือบชนเข้ากับเสาไฟฟ้า แต่เคราะห์ดีที่เบรกทัน ก่อนจะมองไปเห็นรถเก๋งของผู้ก่อเหตุขับออกไปโดยไม่ได้จอดดูซึ่งมีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามตูดติดติดก่อนจะสามารถควบคุมตัวได้

หลังถูกชนลงมาดูความเสียหายของรถพบว่ามีแผ่นป้ายทะเบียนของรถผู้ก่อเหตุเสียบอยู่ทางด้านท้ายรถก่อนจะเดินทางมาที่โรงพักเพื่อให้ปากคำกับตำรวจพร้อมพร้อมทั้งมอบทะเบียนรถของผู้ก่อเหตุให้กับทางตำรวจไปด้วย ส่วนความเสียหายก็รอทางช่างมาประเมินราคา เพื่อให้ทางตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนให้ผู้ก่อเหตุมาชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง