เวลา 13.20 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอประชุม โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โอกาสนี้ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินสมทบกองทุนมูลนิธิส่งเสริมยุวเกษตรกรไทยฯ แล้วพระราชทานเงินดังกล่าวแก่ประธานกรรมการมูลนิธิฯ จากนั้น ผู้แทนยุวเกษตรกรระดับอุดมศึกษาเข้ารับพระราชทานธงยุวเกษตรกร และเดินธงพร้อมร้องเพลงมาร์ชยุวเกษตรกร แล้วสมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกร กล่าวคำปฏิญาณตน
ในการนี้ มีพระราชดำรัสเปิดงานชุมนุมยุวเกษตรและที่ปรึกษายุวเกษตร ระดับประเทศ ประจำปี 2566 ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 - 20 กรกฎาคม 2566 ภายใต้แนวคิด "70 ปี ยุวเกษตรกรไทย ร่วมกำหนดอนาคตเกษตรไทยไปด้วยกัน" เพื่อให้ยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกร เกิดความภาคภูมิใจและมีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง และภาคการเกษตร มีการเตรียมความพร้อมให้เด็กและเยาวชนเข้าสู่ภาคการเกษตรในอนาคต มียุวเกษตรกร ที่ปรึกษายุวเกษตรกร และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานด้านพัฒนาเกษตรกร เข้าร่วมงาน 470 คน
ภายในงาน มีการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของกลุ่มยุวเกษตรกร อาทิ กลุ่มยุวเกษตรกร โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 33 จังหวัดลพบุรี ส่งเสริมให้เรียนรู้การปลูกไผ่ เพื่อนำมาทำประโยชน์ เช่น สะพานให้อาหารปลา โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และข้าวหลาม, กลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนวัดแก่นจันทน์ จังหวัดสมุทรสงคราม ดำเนินกิจกรรมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ และต่อยอดนำทรัพยากรท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การทำน้ำตาลมะพร้าว, กลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนโนนกอกวิทยา จังหวัดชัยภูมิ เรียนรู้การปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ การปลูกผักปลอดภัยมาตรฐาน GAP และการทำการตลาดแบบจับคู่ธุรกิจ
นอกจากนี้ ยังจัดแสดงนิทรรศการด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ, นิทรรศการการดำเนินงานยุวเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งส่งเสริมเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 10 - 25 ปี ที่มีความสนใจด้านการเกษตรให้เกิดการรวมกลุ่มยุวเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง กำหนดแนวทางการพัฒนา 5 แนวทาง ในปี 2566 ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนากลุ่มยุวเกษตรกร ปัจจุบัน มีกลุ่มยุวเกษตรกร 4,930 กลุ่ม สมาชิก 82,445 คน
เวลา 17.10 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ เสด็จออกแทนพระองค์ ณ วังสระปทุม ทรงเจิมเทียนพรรษาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชอุทิศพระราชทาน ไปจุดบูชาพระรัตนตรัย ตามพระอารามหลวงและพุทธเจดีย์สถานสำคัญ ในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปีพุทธศักราช 2566 จำนวน 39 ต้น สำหรับกรุงเทพมหานคร มีเทียนหล่อใหญ่ 24 ต้น เล็ก 2 ต้น กระจุบยอดเทียนสลัก 34 ต้น และสำหรับจังหวัดต่าง ๆ มีเทียนหล่อใหญ่ 13 ต้น กระจุบยอดเทียนสลัก 17 ต้น
เวลา 17.37 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา เขตพระนคร ทรงเปิด "นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 68 พรรษา และเนื่องในโอกาสครบ 30 ปี การก่อตั้งศูนย์ศิลป์สิรินธร" ซึ่งคณะกรรมการศูนย์ศิลป์สิรินธร จัดขึ้นจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ภายใต้แนวคิด "มหัศจรรย์กรุงเทพฯ แห่งกาลเวลา" จัดแสดงผลงานศิลปะของนายพิชัย นิรันต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปีพุทธศักราช 2546, นายศราวุธ ดวงจำปา ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ประจำปีพุทธศักราช 2560, ศิลปินระดับชาติ, ศิษย์เก่าศูนย์ศิลป์สิรินธร, ศิลปินรับเชิญจากประเทศอินเดีย และผลงานเดี่ยวของนายสุริยา คูณสวัสดิกูล สถาปนิก-ศิลปิน ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นแรก รวม 68 ชิ้น นอกจากนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานผลงานภาพพิมพ์ฝีพระหัตถ์ จำนวน 2 ภาพ ได้แก่ ภาพพิมพ์โลหะร่องลึก (สี) และภาพพิมพ์โลหะร่องลึก (ขาว-ดำ) นำมาจัดแสดงด้วย โดยผลงานศิลปะที่นำมาจัดแสดง จะจำหน่ายทั้งหมดเพื่อนำรายได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย และสมทบกองทุนศูนย์ศิลป์สิรินธร โอกาสนี้ ทรงวาดภาพฝีพระหัตถ์ "มังกรบิน" ซึ่งทรงใช้เทคนิคสีอะคริลิคบนผ้าใบ ด้วย
ศูนย์ศิลป์สิรินธร สร้างขึ้นเมื่อปี 2536 ในบริเวณโรงเรียนศรีสงครามวิทยา อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเป็นศูนย์ศิลปะเด็กและเยาวชนสมบูรณ์แบบแห่งแรกของอาเซียน ที่ดำเนินการพัฒนาศักยภาพทางศิลปะของเด็กและเยาวชน โดยจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของแต่ละบุคคล นักเรียนจากศูนย์ฯ ผลิตผลงานศิลปะที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้เชี่ยวชาญในวงการศิบปะเด็กและเยาวชน ทั้งในและต่างประเทศ จนได้รับรางวัลจากการประกวดจากทั่วโลกกว่า 10,000 รางวัล และสามารถเข้าศึกษาต่อด้านศิลปะในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก