ประเด็นเด็ด 7 สี - เราเคยนำเสนอการที่หลายธนาคารเริ่มเปิดกว้าง เงื่อนไขการให้สินเชื่อบ้านกันไปแล้ว วันนี้ มีวิธีการผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้นมาฝาก จะมีวิธีอะไรบ้าง ติดตามกับ คุณธัญนันท์ เหล่าบุรินทร์ ใน ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ
บ้าน และคอนโดมิเนียม นับเป็นสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ที่ราคาก็ใหญ่เช่นกัน ทำให้บรรดาวัยสร้างตัวในยุคนี้ หากอยากจะมีบ้าน ก็อาจต้องเลือกขอสินเชื่อผ่อนชำระ แทนการทุ่มเงินสดลงไปทั้งก้อน แต่เส้นทางการผ่อนชำระที่ยาวนาน จะทำอย่างไรให้ผ่อนแบบเบาที่สุดได้บ้าง ก็มี 2 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน
ก็คือ รีไฟแนนซ์ และ รีเทนชัน ซึ่งเราเปรียบเทียบจุดดีจุดด้อยให้ดูกันง่าย ๆ เริ่มที่ฝั่งซ้าย รีไฟแนนซ์ จุดเด่นเลย คือ สามารถเลือกเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารได้เต็มที่ ธนาคารไหนให้ดอกเบี้ยและเงื่อนไขตรงใจเราที่สุดก็เลือกกู้ได้เลย แต่อาจจะต้องวุ่นเตรียมเอกสารใหม่ยกชุด เสียค่าธรรมเนียมใหม่ทั้งหมด และเสียเวลารออนุมัตินาน
ขยับมาดูฝั่งขวา รีเทนชัน อันนี้อาจจะขอลดดอกเบี้ยได้ไม่มากเท่าการรีไฟแนนซ์ ส่วนใหญ่อยู่ที่ 0.25-0.50% แต่จุดเด่นคือไม่ต้องรอนาน ไม่ต้องเตรียมเอกสารมาก เพราะเป็นการผ่อนกับธนาคารเดิม ซึ่งมีข้อมูลเราอยู่แล้ว ส่วนค่าธรรมเนียม ประมาณ 1-2% ของวงเงินที่เรากู้
พูดง่าย ๆ คือ รีไฟแนนซ์ คือ การขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ต่ำลง โดยไปยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคารแห่งใหม่ ที่ให้ข้อเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงกว่าเดิม ส่วน รีเทนชัน คือการเจรจาต่อรองกับธนาคารแห่งเดิม เพื่อขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยสามารถทำได้หลังจากผ่อนชำระครบ 3 ปี เช่นเดียวกับการ รีไฟแนนซ์
ซึ่ง 2 วิธีที่ว่านั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อเราผ่อนชำระบ้านครบ 3 ปี หรือ ครบตามสัญญาแต่ละรอบแล้วเท่านั้น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยหลังครบสัญญา จะปรับขึ้นเป็นอัตราลอยตัว ทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกระทบเงินในกระเป๋าผู้กู้อย่างเราแน่นอน เพราะจะต้องใช้เงินผ่อนชำระมากขึ้น เพื่อไปทบให้เงินต้นลดลง และหมดไวขึ้น
ถามว่าแบบไหนดีกว่า อาจต้องพิจารณาจากความต้องการของผู้กู้ เช่น หากเหลือยอดผ่อนชำระมาก หลายล้านบาท อาจเลือกวิธีรีไฟแนนซ์ เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยต่ำที่สุดในการผ่อนชำระ และคุ้มค่ากับการที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมดำเนินการ
แต่สมมุติว่า ยอดผ่อนชำระเหลือไม่มาก อาจเลือกวิธีรีเทนชัน เพราะแม้จะลดดอกเบี้ยลงไปได้ไม่มากนัก แต่แลกกับความสะดวกที่ไม่ต้องเตรียมเอกสารยุ่งยาก และเสียค่าธรรมเนียมน้อยกว่า
ดอกเบี้ยปีนี้ยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง ใครที่มีภาระหนี้ เลือกวิธีการผ่อนชำระให้ดี ให้เหมาะกับภาระค่าใช้จ่ายของตัวเอง
