วันนี้ (18 ส.ค. 66) ช่วงกลางดึกต่อเนื่องเช้ามืดที่ผ่านมา พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเข้าตรวจสอบภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยกสิกรทุ่งสร้าง 4 ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น หลังได้แจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิตบริเวณชั้นที่ 4 ของบ้าน
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ไม่มีการกั้นห้องนอน พบศพชายถูกห่อด้วยที่นอน ผ้าขนหนู และผ้าใบคลุม สภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วทั้งชั้น จากการตรวจสภาพศพพบว่าที่บริเวณอกซ้ายและแขนขวา มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีด เสียชีวิตมาประมาณ 3 ถึง 4 วัน
ต่อมาตำรวจจึงได้มีการสอบถามเจ้าของบ้าน ทราบว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นคนรู้จักกับนายชนากร อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นคนที่อาศัยภายในบ้าน ตำรวจจึงได้ไปเคาะห้องนอนที่อยู่บริเวณชั้นที่ 2 ใกล้บันได้ทางขึ้นชั้น 3 จากนั้นนายชนากรได้ยอมเปิดประตูห้อง เมื่อตำรวจจะขอตรวจค้น นายชนากรมีพิรุธพยายามที่จะหลบหนี แต่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวไว้ ก่อนที พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา รอง ผกก.ป.สภ.เมืองขอนแก่น ได้มีการตรวจร่างกาย พบว่าบริเวณหน้าท้องนายชนากรมีบาดแผล จึงได้มีการพูดคุยจนกระทั่งนายชนากรได้สารภาพว่า เป็นลงมือก่อเหตุฆ่านายบุญมี ไม่ทราบนามสกุลจริง
พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุและผู้สียชีวิตเป็นกลุ่มเพศทางเลือก และได้มีการไปมาหาสู่กันได้ระยะหนึ่ง โดยในวันที่ 14 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา นายบุญมี ผู้เสียชีวิตได้ขับรถจักรยานยนต์มาหานายชนากรที่บ้าน จากนั้นทั้งสองคนได้มีปากเสียงกัน โดยฝ่ายผู้เสียชีวิตได้มีการชี้หน้านายชนากรผู้ก่อเหตุ จึงสร้างความไม่พอใจและมีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนที่นายชนากรจะใช้มีดปลายแหลมที่อยู่ภายในห้องนอนแทงไป 3 ครั้ง โดยแทงเข้าที่แขนขวา 1 แผล และที่อกซ้าย 1 แผล พร้อมกับปักมีดค้างที่อกซ้ายไว้จนนายบุญมีเสียชีวิต จากนั้นได้ใช้ผ้าขนหนู ที่นอน ห่อศพไว้ภายในห้อง และนอนกับศพเป็นเวลา 2 วัน 2 คืน จนกระทั่งวันที่ 3 ศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็น จึงได้นำศพขึ้นไปที่ชั้นที่ 4 ของบ้าน เพราะไม่มีห้องนอน และคนที่บ้านจะไม่ค่อยขึ้นไป กระทั่งในวันนี้ทางพี่ชายและพี่สาวได้กลิ่นเหม็นจึงขึ้นไปดู ก่อนจะพบศพจงได้แจ้งหน้าที่มาตรวจสอบ และพบว่าผู้ก่อเหตุคือนายชนากรคนในบ้านหลังนี้
อย่างไรก็ตาม หลังก่อเหตุนายชนากรได้ใช้ชีวิตปกติภายในบ้าน โดยไม่มีใครสงสัยแต่อย่างใด จนกระทั่งมีพี่มาพบศพ และเมื่อตรวจสอบประวัตพบว่า นายชนากรมีประวัติการถูกจับกุมในคดีเสพยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งตำรวจได้มีการตรวจปัสสาวะ ก่อนที่จะนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป