ใครจะขับใครออกจากพรรค เพราะ สส.ส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ เดชอิศม์ เชื่อ ปชป.ไม่แตกหัก แจง สส.รุ่นใหม่ไม่ควรต้องรับมรดกความขัดแย้ง โหวตหนุนเศรษฐาเป็นนายกฯ แต่ไม่กระเหี้ยนกระหือรือเป็นรัฐบาล
ที่รัฐสภา วันนี้ (24 ส.ค.66) นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำทีม สส.พรรคที่ร่วมโหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แถลงเหตุผลในการโหวต โดยระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีเอกภาพตั้งแต่การประชุมใหญ่วิสามัญ เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ทั้ง 2 รอบ และมีเจตนาทำให้องค์ประชุมล่มทั้ง 2 ครั้ง ทำให้เกิดความเสียหายกับพรรคและประชาชนที่มาเป็นองค์ประชุมทั่วประเทศรวมทั้งค่าใช้จ่ายของพรรคที่ใช้กว่า 3-4 ล้านบาทต่อครั้ง และวันที่ 21 ส.ค.66 พรรคมีประชุมเพื่อพิจารณาวาระประชุมสภาฯ 22-24 ส.ค.66 เรื่องสำคัญคือการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมมีความเห็น คือ ไม่เห็นชอบ และถามว่าสาเหตุคืออะไร ส่วนใหญ่บอกถึงความขัดแย้งและความโกรธในอดีต ทั้งหมดอยากให้แยกหน้าที่ สส.ปัจจุบันกับความแค้นออกจากกัน
นายเดชอิศม์ กล่าวอีกว่า จากการโหวตคนแรกคือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ที่งดออกเสียง ส่วนนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคและนายบัญญัติ บรรทัดฐาน รักษาการรองหัวหน้าพรรค ไม่เห็นด้วย ซึ่ง 3 เสาหลักของพรรคที่ลงคะแนนก็ไม่เหมือนกันแล้ว สส. ก็เลยคุยกันต่อว่าเป็นมติพรรคหรือไม่ และเห็นว่าไม่ใช่มติพรรค ดังนั้นเราก็คิดว่าทางเลือกคือเราจะเลือกประเทศชาติละประชาชนไว้ก่อน วันนี้พรรคเพื่อไทยรวม สส.เกิน 250 เสียง และเป็นรัฐบาลสมานฉันท์ พวกเราเป็น สส.รุ่นใหม่ไม่ควรมารับความขัดแย้งที่ผ่านมา แม้สนับบสนุนนายเศรษฐา เป็นนายกฯ แต่ยังเป็นฝ่ายค้าน ไม่กระเหี้ยนกระหือรือเป็นรัฐบาล ยอมรับว่าสนิทกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค แต่หน้าที่เมื่อเข้าสภาฯ ก็เป็นอีกหน้าที่หนึ่ง
เมื่อถามถึงกระแสการขับออกจากพรรค นายเดชอิศม์ กล่าวว่า การขับออกจากพรรค ต้องเอาเสียง สส.พรรค และกรรมการบริหารพรรค 3 ใน 4 แล้วลงมติ ใครจะขับใครออกจากพรรคกันแน่ เพราะ สส.ส่วนใหญ่อยู่ที่นี่กันหมดแล้ว จะขับอย่างไร อย่างไรก็ตาม พวกเราไม่คิดจะขับใครออกจากพรรค พร้อมเจรจา และที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาเจรจากับพวกเราเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ กก.บห. หรือทิศทางทางการเมืองของพรรค แต่ยืนยันถ้าเป็นนโยบายที่ดีๆ ของพรรคก็พร้อมรับต่อ แต่ไม่รับมรดกความโกรธแค้นในอดีต เราพร้อมจะออกจากความเป็น สส.ของพรรค หากเราทรยศประชาชน สิ่งที่พวกเราแคร์ที่สุดคือชาติและประชาชน แม้จะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคก็ยอมรับได้”
นายเดชอิศม์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนไม่ได้เลือกนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค แต่เราไม่ยอมล้มนายจุรินทร์ เมื่อครั้งที่ผ่านมาเคยมีคนให้ทำเช่นนั้นเหมือนกัน พร้อมยืนยัน พรรคไม่ถึงกับแตกแต่ความเห็นไม่ตรงกัน และยังมีเวลาที่จะพูดคุยกัน กว่าจะเป็น สส.ได้ เป็นเรื่องที่ยากมาก กว่าจะฝ่าฟันมาได้ หลังจากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นก็ได้กลับไปหารือกันเองในส่วน สส. ที่โหวตเห็นชอบ
