สนามข่าว 7 สี - เกิดเหตุสลดใจที่ทำให้ลูกที่กำลังลืมตาดูโลก ต้องขาดพ่อ เรื่องมีอยู่ว่าสามี-ภรรยาตั้งครรภ์ 8 เดือน หวังดี ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นคน ยืนลักตัดต้นกัญชาที่เพื่อนบ้านปลูกไว้หน้าบ้าน คาดไม่ถึงว่าการพูดทัก แค่ประโยคเดียว ทำให้คนร้ายไม่พอใจ ไล่ตามทำร้ายจนสามีเสียชีวิต
กล้องวงจรปิดภายในบ้านหลังหนึ่ง ในซอย 6 ชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 23.00 น. กว่า บันทึกภาพขณะชายคนร้าย สวมชุดสีดำ มาคนเดียว เดินผ่านหน้าบ้านไปไม่นาน จากนั้นจะเห็นคนขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังชายคนร้ายไป โดยมีสามีเป็นคนขี่ ส่วนภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน นั่งซ้อนท้าย
และต่อจากนั้นไม่นานกล้องวงจรปิดมุมเดิม บันทึกภาพได้อีกครั้งเป็นภาพชายคนร้ายคนเดิม รีบวิ่งหนีผ่านหน้าบ้านไป โดยภายหลังมีชาวบ้านทราบว่าชายคนร้าย ที่สวมชุดสีดำ ได้ไปก่อเหตุใช้มีดแทง นายพรเทพ ศรีวรรณ อายุ 29 ปี ซึ่งก็คือคนที่ขี่รถจักรยานยนต์ ถูกคมมีดแทงเข้ากลางอก บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนภรรยาตั้งครรภ์ 8 เดือน ที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยนั้นได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากรถล้มและพยายามวิ่งหนีคนร้าย สะดุดล้ม ปาก และเข่าทั้ง 2 ข้างแตก
ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า เธอและสามีเช่าบ้านพักอยู่ในซอยดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหาซื้ออาหารเสร็จแล้วกำลังขี่กลับเข้าบ้าน พอมาถึงในซอยเห็นคนร้าย เป็นชายวัยกลางคน ยืนตัดต้นกัญชาที่เพื่อนบ้านปลูกไว้หน้าบ้าน สามีจึงชะลอรถแล้วทักว่า "ทำอะไร" ส่วนชายคนร้ายก็ถามกลับด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยพอใจ ว่า "พวกมึงเป็นใคร" ก่อนชักมีดออกมาจะแทงเธอ และยกเท้าจะถีบรถ นาทีนั้นสามีต้องเร่งเครื่องบิดหนีตาย แต่ขี่ไปได้นิดเดียวรถเสียหลักล้ม คนร้ายตามมาทันใช้มีดที่ถือมาจะแทงเธออีก แต่สามีกระโดดเข้ามาขวาง ทำให้ถูกมีดแทงเข้ากลางอก ส่วนคนร้ายวิ่งหนีหายไปในความมืด เรื่องที่เกิดขึ้นเธอยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักชายที่ก่อเหตุมาก่อน
หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางเสาธง ลงพื้นที่หาเบาะแส กระทั่งไปได้ข้อมูลจากชาวบ้านว่าผู้ก่อเหตุ น่าจะเป็นชายชื่อ นายอนุ อายุ 33 ปี พักอยู่ในซอยซีสาม ห่างจากซอยที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัย ชาวบ้านร่วมกันเข้าไปปิดล้อมบ้านพัก โดยทันทีที่ผู้ก่อเหตุเห็นได้หนีออกทางด้านหลังบ้าน แล้วปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านข้างเคียง โดยถือมีดติดตัวไว้ด้วยอย่างน้อย 3 เล่ม และไม่ยินยอมให้ใครเข้าใกล้ จากสถานการณ์เมื่อคืนนี้ไม่สู้ดีนัก ตำรวจจึงกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ จากนั้นพยายามเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุให้วางมีด และลงมามอบตัว แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการหลอนจากฤทธิ์
กัญชาที่เสพ ทำให้มีอาการเพ้อ พูดจาวกไปวนมา ไม่รู้เรื่อง และพูดคนเดียวตลอดเวลา ตำรวจจึงทำทีเป็นส่งบุหรี่และน้ำดื่มให้ หวังให้ผู้ก่อเหตุลงมารับน้ำดื่ม แต่ก็ไม่ได้ผลอีกเหมือนเดิม
ผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ท่ามกลางแรงกดดันจากชาวบ้านจำนวนมากที่ต่างหวาดกลัว เนื่องจากผู้ก่อเหตุเพิ่งไปก่อเหตุฆ่าคนเสียชีวิต ที่สุดเมื่อเวลาเกือบ 03.00 น. พันตำรวจเอก โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.บางเสาธง สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเตรียมอุปกรณ์ระงับเหตุ ครบมือ ทั้งปืนกระสุนยาง และปืนไฟฟ้า รอจังหวะผู้ก่อเหตุเผลอ เริ่มยิงกระสุนยางใส่ 3 นัด แล้วส่งกำลังบุกจู่โจมเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ แต่กว่าจะควบคุมตัวได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะตอนตำรวจบุกขึ้นไปผู้ก่อเหตุยังถือมีดไว้ในมือ กวัดแกว่งไปมา พร้อมกับตะโกนด่าข่มขู่ด้วย
ทั้งนี้แม่ของผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลว่า ลูกชายมีอาการป่วยเป็นจิตเวช เนื่องจากใช้ยาเสพติดอย่างหนักมาก่อนหน้านี้ จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเจ้าสมเด็จเจ้าพระยาฯ จนอาการดีขึ้นจึงกลับมาพักที่บ้าน แต่ยังต้องไปรับยาที่โรงพยาบาลบางพลี มากินอย่างต่อเนื่อง แต่มาระยะหลังลูกไม่ยอมกินยา และหวนกลับไปเสพกัญชาอีก ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน หงุดหงิดง่าย อารมณ์โมโหร้าย แต่ที่ผ่านมาไม่เคยคลุ้มคลั่งถึงขนาดไปเข่นฆ่าเอาชีวิตใคร ผิดกับครั้งนี้ ถือว่าอาการหนักที่สุด
