"กรณ์" ท้วงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทุกอย่างมีต้นทุน มีราคาที่ต้องจ่าย รัฐต้องแบกภาระดอกเบี้ย วันนี้หนี้รัฐบาลมีอยู่ 11 ล้านล้านบาท รัฐบาลต้องออกพันธบัตรใหม่มาชำระชุดเก่าตลอดเวลา
แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท วันนี้ (17 ก.ย.66) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ทักท้วงนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยระบุว่าด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ กับ ภาระทางการคลัง ระหว่างที่ถกเถียงกันเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินดิจิทัล 10,000 บาท ขอให้สังเกตประมาณการสถานะทางการเงินล่าสุดของประเทศให้ดี
กระทรวงการคลังเสนอประมาณการชุดนี้ในการประชุม ครม.นัดแรกของ รัฐบาลเศรษฐา สำหรับใครที่ไม่ชอบดูตารางข้อมูลแบบนี้ ตนขอสรุปประเด็นสำคัญให้ ดังนี้
1. รายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้น
2. แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่า
3. รัฐบาลเลยจะขาดดุลมากขึ้น (3% ของ GDP จากที่เดิมคาดว่าจะลดลงเหลือ 2.8% ในปีหน้า)
4. ในขณะที่เศรษฐกิจโตช้ากว่าที่คาดไว้เดิม
5. ดังนั้นสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP จึงสูงขึ้นมาก (64% vs. เดิม 61.35%)
นายกรณ์ อธิบายต่อว่า ประมาณการใหม่นี้กำลังสร้างความกังวลให้นักเศรษฐศาสตร์อย่างมาก เพราะทุกอย่างมีต้นทุน คือมี “ราคาที่ต้องจ่าย” ซึ่งราคาที่ว่านี้ปรากฏชัดเจนในส่วนของต้นทุนดอกเบี้ยของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น อย่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 10ปี ทะลุ 3% ไปแล้ว เพิ่มขึ้นมากว่า 50bps ในช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา และประมาณการนี้ยังไม่ได้รวมนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทของรัฐบาล ซึ่งอย่างไรรัฐบาลก็ต้องกู้ หรือยืมรัฐวิสาหกิจมาแจก
“วันนี้หนี้รัฐบาลมีอยู่ 11 ล้านล้านบาท รัฐบาลต้องออกพันธบัตรใหม่มาชำระชุดเก่าตลอดเวลา ซึ่งต้นทุนก็จะมีแต่สูงขึ้น เป็นภาระต่องบประมาณมากขึ้น แนวโน้มดอกเบี้ยเราจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยหลากหลายปัจจัย เช่นการส่งออกที่ซบเซา ราคานํ้ามันโลกที่สูงขึ้น รวมไปถึงรายจ่ายภาครัฐจากนโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาลใหม่”
นายกรณ์ สรุปทิ้งท้ายว่า จุดแข็งของไทยคือ เราแทบไม่มีหนี้สกุลเงินต่างประเทศ แต่อย่างไร เราก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจของโลก ไม่ระวังไม่ได้