เปลี่ยนให้กองบังคับการปราบปราม ดูคดีกำนันนก ทำไม ?

View icon 273
วันที่ 18 ก.ย. 2566 | 07.02 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - คดีงานเลี้ยงเลือดที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 6 กันยายน ผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์ คดีนี้นอกจากจะบานปลายออกไปกระทบกับหลายวงการแล้ว ในแวดวงสีกากีเองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ที่พูดถึงเรื่องนี้เพราะสังคมกำลังจับตาคดีนี้ที่มีตำรวจตั้งแต่ชั้นประทวนไปจนถึงระดับผู้กำกับสถานีมีส่วนพัวพัน และถูกแจ้งข้อกล่าวหา เพราะมีข้อสงสัยในปากคำให้การของตำรวจทั้งหมดภายหลังคืนเกิดเหตุ กระทั่งมาโป๊ะแตกกันเมื่อมีการเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นแต่ละคนมีพฤติการณ์อย่างไร หลังสารวัตรแบงค์ถูกยิงกลางงานเลี้ยง ซึ่งให้การไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

จนมาถึงการแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจที่เข้าข่ายกระทำความผิดอีก 13 นาย เมื่อตัด พันตำรวจเอก วชิรา หรือ ผู้กำกับเบิ้ม ออกไปเพราะเสียชีวิต โดยแบ่ง 13 คน เป็น 3 กลุ่มความผิด เป็นที่โจทย์ขานกันว่าขณะตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยังเป็นแบบนี้ จะหวังพึ่งกระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร

เมื่อพาดพิงไปถึงนายตำรวจใหญ่ การทำคดีเอาผิดตำรวจด้วยกันเองจึงเป็นที่จับตาของสังคม ว่าจะเอาจริงเอาจังแค่ไหน เอาผิดได้หรือไม่ หรือสุดท้ายเลือดสีเดียวกันจะช่วยกันให้พ้นผิด อย่างที่โพลสะท้อนออกมา และเป็นที่ตระหนักรู้ของชุดสืบสวนทำคดีนี้ตั้งแต่แรกว่า ถึงการสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้ามาให้สังคมติดตามกันอย่างใกล้ชิด ชนิดนาทีต่อนาที เปิดข้อมูลเท่าที่จะเปิดได้ แต่ก็ยังคงมีคำถามที่กระทบความเชื่อมั่นเช่นเดิม

นี่อาจเป็นที่มาที่ทำให้ บิ๊กเด่น พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตัดสินใจสั่งการให้โอนสำนวนการสอบสวนคดีที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การกำกับดูแลของ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช

เพราะนอกจากสารวัตรแบงค์ เป็นตำรวจทางหลวง สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกว่าเป็นสายตรงส่งลงไปปราบส่วยในจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นที่แรก ๆ หลังถูกแฉมีส่วยสติกเกอร์ แต่กลับถูกยิงเสียชีวิต จึงเชื่อว่า ผบช.ก.คนนี้จะเดินเครื่องแบบสุด ๆ ไม่ละเว้นหรือเห็นแก่ตำรวจด้วยกันเอง ไม่ให้คดีพลิกจนทำลายองค์กรตำรวจลงไปอีก

เรียกว่า บิ๊กเด่น พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ ตัดสินใจงวดนี้ชนิดหักมุมแบบสุด ๆ และก็ไม่ทำให้ ผบ.ตร.ผิดหวัง เมื่อมีรายงานข่าวว่า พลตำรวจโท จิรภพ ลุยต่อ บอกไม่หนักใจคดีนี้ เพราะพยานหลักฐานแน่นหนา ชี้ได้ว่ากำนันนกคือผู้สั่งการ มีพฤติกรรมทำลายหลักฐาน มีมูลเหตุแรงจูงใจ ทั้งหมดครบองค์ประกอบทางคดี ที่สามารถทำให้กำนันนกได้รับโทษสูงสุดคือประหารชีวิต

นอกจากนี้ พลตำรวจโท จิรภพ ยังสั่งให้รวบรวมหลักฐานและรายละเอียดผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนครปฐม เตรียมเปิดปฏิบัติการปราบอิทธิพลแบบถอนรากถอนโคน โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในคดีอีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง