ตำรวจไซเบอร์จับแก๊งส่ง SMS หลอกกดลิงก์ดูดเงิน ขยายผลรวบระดับสั่งการ

ตำรวจไซเบอร์จับแก๊งส่ง SMS หลอกกดลิงก์ดูดเงิน ขยายผลรวบระดับสั่งการ

View icon 464
วันที่ 23 ก.ย. 2566 | 09.42 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจไซเบอร์จับแก๊งส่ง SMS หลอกกดลิงก์ดูดเงิน ขยายผลรวบระดับสั่งการ ปิดล้อมตรวจค้น 5 จุด 4 จังหวัด

จับแก๊ง SMS ดูดเงิน เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2566 พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3และ พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3 ระดมทีมสืบสวนเร่งแกะรอยขยายผลกลุ่มเครือข่ายขบวนการเครื่องกระจายสัญญาณที่ใช้อุปกรณ์ส่งข้อความ SMS ให้ประชาชนหลงกด Link ปลอม จากนั้นเข้ามาควบคุมเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ แล้วทำการโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Mobile Banking จนพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปยังกลุ่มขบวนการผู้ร่วมกระทำความผิดในระดับสั่งการและทำหน้าที่จัดหาชุดอุปกรณ์เครื่องกระจายสัญญาณ จนสามารถขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลอาญาธนบุรี ได้ทั้งสิ้นจำนวน 5 ราย จากนั้นจึงมีการสนธิกำลังชุดปฏิบัติการวางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาเพื่อตัดต้นตอวงจรกลุ่มขบวนการดังกล่าว

จากการสืบสวนสอบสวนจนทราบตัวผู้ร่วมกระทำความผิดและสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาในครั้งนี้ได้นำไปสู่การเปิดปฏิบัติการล่าเครือข่ายกลุ่มขบวนการระดับสั่งการ ขึ้นในเช้าวันที่ 21 ก.ย.66 ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าว สืบเนื่องมาจากปฏิบัติการ Shutdown Stingray ซึ่งตำรวจไซเบอร์ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาในระดับปฏิบัติการพร้อมเครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) ที่ถูกติดตั้งไว้ในรถยนต์สำหรับใช้ก่อเหตุในช่วงเดือน พ.ค.2566 ที่ผ่านมา โดยมีการสนธิกำลังชุดปฏิบัติเข้าปิดล้อมตรวจค้นพร้อมกัน 5 จุด 4 จังหวัด ภายในวันเดียวกัน ดังนี้

จุดที่ 1 เข้าตรวจค้นที่ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง โดย กก.2 บก.สอท.3 และ กก.วิเคราะห์ฯ บก.สอท.5
จุดที่ 2 เข้าตรวจค้นที่ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี  โดย กก.2 บก.สอท.2 และ กก.2 บก.สอท.3
จุดที่ 3 เข้าตรวจค้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดย กก.1 บก.สอท.3 และ กก.2 บก.สอท.3
จุดที่ 4 เข้าตรวจค้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดย กก.1 บก.สอท.3 และ กก.2 บก.สอท.3
จุดที่ 5 เข้าตรวจค้นที่ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร โดย กก.1 บก.สอท.1

ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น จำนวน 5 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกัน ทํา มี ใช้ นําเข้า นําออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต และเป็นอั้งยี่หรือซ่องโจร” จากนั้นจึงได้มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย