วันที่ 5 ต.ค.66 คืบหน้าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เกี่ยวกับประเด็นข้อจำกัดการใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่มีกรอบควบคุมไว้คือ จำกัดระยะทางในการใช้งานไว้ที่รัศมี 4 กิโลเมตร จากที่อยู่ตามบัตรประชาชน จนเกิดความกังวลว่าจะประชาชนในพื้นที่ห่างไกลจะเข้าถึงได้จริงหรือไม่
ล่าสุด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ระบุว่า กระทรวงการคลังได้นำเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่พิจารณากรอบนโยบาย วงงบประมาณ แหล่งที่มางบประมาณ กลไกการดำเนินการต่างๆ รวมถึงเมื่อนโยบายได้ริเริ่มแล้ว จะมีหน้าที่ในการติดตาม และตรวจสอบการทุจริตต่าง ๆ ด้วย
ส่วนประเด็นเรื่องกรอบระยะทางการใช้งานภายใน 4 กิโลเมตร จะขยายหรือไม่ ก็จะเป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการชุดนี้เป็นผู้เคาะเช่นกัน แต่ขณะนี้หลังจากรับฟังเสียงสะท้อนของพี่น้องประชาชน ก็มีแนวโน้มไปในทิศทางว่าจะขยายกรอบพื้นที่การใช้งานเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าพื้นที่ต่างจังหวัด หรือพื้นที่ห่างไกลนั้น ภายในระยะทาง 4 กิโลเมตร บางหมู่บ้านไม่มีร้านค้าที่สามารถใช้จ่ายได้
ดังนั้นการขยายรัศมีการใช้งานเงินดิจิทัล 10,000 บาท มีความเป็นไปได้สูง แต่สุดท้ายเงื่อนไขจะเป็นเช่นไร จะมีคำตอบที่ชัดเจนอีกครั้ง เมื่อคณะอนุกรรมการได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ที่สุดแก่พี่น้องประชาชน โดยจะแถลงให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ เงินดิจิทัล 10,000 บาท รัฐบาลเศรษฐาประกาศเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ที่รัฐบาลนี้เห็นว่าจำเป็นต้องทำ เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน บรรเทาปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน ให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาหมุนเวียนอีกครั้ง ซึ่งกำหนดเงื่อนไขคนที่ได้สิทธิคือ คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป จะได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิต สามารถซื้ออาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค หรือเครื่องมือทำกินก็ได้ทั้งนั้น กำหนดกรอบเวลาใช้สิทธิภายใน 6 เดือน โดยจะใช้ทีเดียวหรือทยอยใช้ก็ได้ ด้วยบัตรประชาชน ผ่านแอปพลิเคชัน และไม่สามารถเบิกถอนเป็นเงินสดได้ คาดเงินจะโอนให้ได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2567
